วันนี้ (21 ส.ค.2560) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่หลายจุดเพื่อติดตามการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ที่ ต.หัวทะเล สำรวจบึงหัวทะเล เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสถานที่ออกกำลังกาย
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ถามบนเวทีว่า มีใครจะไปเลือกตั้งบ้าง แล้วมีใครในใจที่จะเลือกหรือยัง โดยมีประชาชนส่วนหนึ่งตอบกลับว่า จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพลเอกประยุทธ์ ตอบว่า เป็นเรื่องของชะตากรรม แต่ถ้ามีการเลือกตั้งก็ขอให้ไปเลือกคนดี อย่าเลือกคนผิด
จากนั้น ลงพื้นที่ติดตามแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อ่างเก็บน้ำบึงกระโตน อำเภอประทาย รับฟังรายงานภาพรวมการแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในภาคอีสาน ทั้ง3 ลุ่มน้ำคือ แม่น้ำมูล แม่น้ำชีและแม่น้ำโขง และลงพื้นที่บ้านหนองขี้เหล็ก ต.วังหิน อ.โนนแดง ซึ่งเป็นหมู่บ้านประสบปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งซ้ำซาก
ซึ่งตลอดการพบประชาชน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงการทำงานของรัฐบาลตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และการลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆ ของรัฐบาลโดยเฉพาะการพัฒนาระบบสาธารณูประโภค เช่นรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง พร้อมอยากให้ทุกคน ช่วยเป็นกำลังใจในการบริหารประเทศ
ถ้าดูไทม์ไลน์การเมืองช่วงนี้ที่ปลายสัปดาห์ จะมีคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่การลงพื้นที่ภาคอีสานของ ครม. ในต้นสัปดาห์ ถูกวิเคราะห์เป็นพิเศษ โดยเฉพาะมวลชนจำนวนไม่น้อยที่มาคอยต้อนรับนายกรัฐมนตรี และเน้นย้ำในการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า การเลือกตั้ง ต้องเลือกคนดีมาทำหน้าที่เพราะเป็นอนาคตของประเทศ
ถ้าจะมองให้เป็นปกติ จ.นครราชสีมา เป็นบ้านเกิดนายกรัฐมนตรี แต่ที่ต้องคิดต่อก็คือ ผู้ว่าราชการและฝ่ายปกครอง 20 จังหวัดภาคอีสาน มารวมตัวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน คงไม่แปลกที่นายกรัฐมนตรี จะพูดเรื่องงานทั่วไปของรัฐบาล แต่ครั้งนี้เหมือนนายกรัฐมนตรี ไม่พลาดที่จะพูดถึงการเลือกตั้งในอนาคต
ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน และภาคเอกชน หารือถึงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบทั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และของภาคอีสาน ที่ประชุมร่วมยังเตรียมขออนุมัติงบ7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบขอแก้ไขแบบก่อสร้างรถไฟทางคู่เพื่อยกระดับเหนือพื้นดินช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมาระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร 2,500 ล้านบาท
งบปรับทัศนียภาพทุ่งทะเลต.หัวทะเล ให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นปอดของชาวเมืองโคราช 100 ล้านบาท และเสนอให้มีการผันน้ำมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มาสู่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง 4,400 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 โครงการผ่านที่ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและภาคเอกชนแล้ว รอเสนอต่อที่ประชุมอนุมัติในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.)
" การลงทุนรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงไปจีน เพราะโครงการไม่ใช่มุ่งหวังว่าจะให้ประโยชน์กับใคร แต่เราต้องมองว่าประเทศไทยจะเชื่อมกับเขาอย่างไร วันหน้าไปจะเชื่อมเดินทางไปจีน ปากีสถาน ยุโรปตะวันออกด้วยรถไฟสายนี้ ที่ผ่านมายอมรับว่าราคารถไม่พอกับค่าซ่อมรถไฟ ค่าลงทุน และค่าใช้จ่ายที่ได้จากค่ารถก็ไม่พอ แต่เพราะเป็นการให้บริการประชาชน แต่สิ่งที่จะเกิดมาคือความเจริญเติบโต" นายกรัฐมนตรี กล่าว