ป.ป.ช.ลงมติ "ยิ่งลักษณ์" ไม่ผิดบริหารน้ำผิดพลาดปี 54

การเมือง
13 ก.ย. 60
18:53
464
Logo Thai PBS
ป.ป.ช.ลงมติ "ยิ่งลักษณ์" ไม่ผิดบริหารน้ำผิดพลาดปี 54
ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว ไม่พบพยานหลักฐานที่อ้างอิงว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริหารจัดการน้ำผิดพลาด ปี 2554 ขณะที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ชี้เดือน ก.ย.นี้ รอฟังคำแถลงชี้มูลคดีสำคัญ

วันนี้ (13 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกมีพฤติการณ์กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการบริหารจัดการน้ำผิดพลาด เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยในปี 2554 โดยก่อนร่วมเป็นประธานเปิดงานสัมมนาแลกเปลี่ยนความเห็นการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ร่วมกับหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ย.นี้ จะมีการแถลงถึงการชี้มูลคดีสำคัญแต่ยังไม่เปิดเผยว่ามีคดีใดกังวลว่าจะกระทบต่อกระบวนการทำงานและกระทบต่อสิทธิ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี

พล.ต.อ.วัชรพล เปิดเผยว่า จากการแสวงหาข้อเท็จจริงและไต่สวนคดีมีพฤติการณ์กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการบริหารจัดการน้ำผิดพลาด เป็นเหตุให้เกิดอุทกภัยในปี 2554 ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีการชี้มูลเนื่องจากพยานและหลักฐานไม่ถึงและย้ำว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะหาผู้กระทำผิดแต่พิจารณาไปตามข้อมูลพยานหลักฐานและด้วยเหตุผลเดียวกัน ป.ป.ช.ได้ลงมติไม่ชี้มูลความผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อกล่าวหาเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ส่วนความคืบหน้าในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาตินั้น ได้ส่งร่างไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแล้ว อยู่ระหว่างการปรับแก้ให้เป็นร่างสมบูรณ์ ก่อนส่งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)คาดว่าต้นเดือน ต.ค.หลังจากนั้นจะเข้าสู่การตั้งกรรมาธิการพิจารณาศึกษาซึ่งต้องมีตัวแทนสัดส่วนของ ป.ป.ช. จะไปหารือในชั้นนั้นอีกครั้ง ซึ่งตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ต้องจัดทำกฎหมายให้แล้วเสร็จภายใน 240 วันอยู่แล้วหรือภายในต้นเดือน ธ.ค.

และตามที่ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนร่วม มาตรา 18 ที่กำหนดให้ ป.ป.ช.ตั้งหน่วยงานพิเศษภายในสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายฉบับดังกล่าว ประธาน ป.ป.ช.เปิดเผยว่า เมื่อกฎหมายประกาศบังคับใช้จะทำเรื่องถึงรัฐบาลเพื่อขอบุคลากรเพิ่มเติมเข้ามาทำหน้าที่เนื่องจากเป็นงานใหม่ที่ต้องรับผิดชอบ

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ถึงการตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัดว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดในการแสวงหาข้อมูลให้ครบถ้วน และแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ไต่สวนหรือแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ว่าใครจะเข้ามาทำหน้าที่ก็สามารถร่วมมือกันโดยทางรัฐบาลเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ในขณะที่ในเรื่องนี้เป็นประเด็นที่สังคมเฝ้าจับตาดู ต้องทำให้ชัดเจน

นอกจากนี้ ประธาน ป.ป.ช. วางเป้าปี 61 โดนจะวางระบบให้องคณะเร่งรัดขับเคลื่อนงานทุก 2 เดือน กำหนดรูปแบบการไต่สวนให้เจ้าหน้าที่อาวุโสรับผิดชอบเพื่อจะได้ขับเคลื่อนคดีใหญ่ๆได้ โดยคาดหวังให้เรื่องค้างเก่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ

ในขณะเดียวกัน ประธาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ภายในเดือน ก.ย.นี้ จะมีการแถลงผลการชี้มูลคดีสำคัญและถือเป็นคดีใหญ่ทางการเมืองและไม่เฉพาะนักการเมืองที่เป็นรัฐบาลชุดที่แล้วเท่านั้นแต่จะเป็นคดีในอดีตที่นักการเมืองที่ถูกชี้มูลมาก่อนแล้วด้วย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ด้วยเกรงว่าจะกระทบต่อการทำงานและสิทธิของผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี

ทั้งนี้ยังมีอีกกว่า 10 คดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในชั้นไต่สวนของ ป.ป.ช. เช่น คดีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองโดยไม่มีอำนาจ, การออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ, การโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช. และการตรากฎหมาย หรือ พ.ร.ก.การกู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทเป็นต้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง