ส่อวิกฤตน้ำเหนือผ่านนครสวรรค์ 2,854 ลบ.ต่อวินาที

ภัยพิบัติ
19 ต.ค. 60
16:20
1,236
Logo Thai PBS
ส่อวิกฤตน้ำเหนือผ่านนครสวรรค์  2,854  ลบ.ต่อวินาที
กรมชลประทาน ชี้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 2,854 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังฝนตกใน จ.กำแพงเพชร ส่งผลน้ำปิงที่ไหลลงแม่เจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ส่งหนังสือแจ้งจังหวัดเตือนประชาชนรับมือน้ำล้นตลิ่ง

วันนี้(19 ต.ค.2560) นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่าที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีประมาณน้ำไหลผ่าน 2,854 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 1.38 เมตร แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ทำให้แม่น้ำปิงมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ และปริมาณน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปริมาณน้ำจะไหลไปรวมกับแม่น้ำสะแกกรัง และไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท  

ขณะที่การระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยายังควบคุมการระบายอยู่ที่ไม่เกิน 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 20 เซนติเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในเขต อ.เมือง อ.วัดสิงห์ และ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท รวมไปถึงพื้นที่ในเขต อ.เมือง จ.อุทัยธานี และ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ส่งหนังสือแจ้งจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งฝ่ายปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ดังกล่าว ให้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง

 

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในระยะนี้ ด้วยการควบคุมการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งล่าสุดวันนี้ระบาย 2,598 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที พร้อมกับเพิ่มการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาให้สูงสุดตามศักยภาพที่รับได้ เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา

และจนถึงขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ยังคงปิดการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงปลายฤดูฝนให้ได้มากที่สุด สำหรับสำรองไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าที่กำลังจะมาถึง

ปริมาณน้ำ 4 เขื่อนใหญ่มากถึงร้อยละ 79 

สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น58,038 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 82 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด เป็นน้ำใช้การได้ 34,512 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 73 สามารถรองรับน้ำได้อีก 13,285 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้น19,728 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 79 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มีปริมาณน้ำใช้การได้ 13,032 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 72 สามารถรองรับปริมาณน้ำได้รวมกันอีกกว่า 5,159 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้กรมชลประทานได้กำชับให้โครงการชลประทานทุกโครงการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ นำถุงยังชีพและน้ำดื่มเข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่องแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง