วันนี้ (6 พ.ย.2560) นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 12 พายุด็อมเร็ย และฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบถึงวันที่ 6 พ.ย.นี้โดยระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรง โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมีดังนี้ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังคลื่นซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย
ทั้งนี้หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชัน “ด็อมเร็ย”ได้สลายตัวแล้ว
"เวียดนาม"เผชิญพายุไต้ฝุ่นด็อมเร็ยเสียชีวิต 29 คน
ขณะที่มีรายงานว่า อิทธิพลของไต้ฝุ่นด็อมเร็ย ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักทางตอนกลางของประเทศเวียด นาม โดยหน่วยงานด้านป้องกันและควบคุมภัยพิบัติทางธรรม ชาติเวียดนาม ระบุว่า ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 29 คน และมีผู้สูญหาย อีกอย่างน้อย 29 คน อิทธิพลของไต้ฝุ่นลูกนี้ ยังทำให้บ้านเรือน พังถล่มลงกว่า 1,000 หลัง และอีกมากกว่า 43,000 หลัง ได้รับความเสียหาย ขณะที่ในหลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยทางการเวียดนามวิตกว่า หากฝนยังคงตกต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลงไปอีก และอาจเกิดดินโคลนถล่มขึ้น
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในรัฐปีนัง ของประเทศมาเลเซีย ยังคงไม่น่าไว้วางใจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งอพยพประชาชนมากกว่า 3,300 คน ออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัย หลังฝนที่ตกหนักต่อเนื่องนาน 15 ชั่วโมง โดยหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมสูง ซึ่งบางพื้น ระดับน้ำสูงถึง 3 เมตร 50 เซนติเมตร
ด้านสื่อท้องถิ่นมาเลเซีย รายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติดังกล่าวอย่างน้อย 5 คน และมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย จำนวนหลายร้อยหลังคาเรือน
นอกจากนี้ยังมีต้นไม้หักโค่นและถนนหลายสายถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่มาเลเซีย เชื่อว่า พายุฝนที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นด็อมเร็ย