วันนี้ (4 ธ.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสามารถ เจนชัยจิตรพาณิชย์ ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย พร้อมผู้เสียหาย เข้ายื่นเอกสารหลักฐาน พร้อมนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริม คอลลาเจนผิวขาว ยาลดความอ้วน กาแฟ ซึ่งเสียเงินสมัครทำธุรกิจขายตรง ตั้งแต่ 5,000-170,000 บาท แต่พอนำสินค้าไปขายกลับขายไม่ได้ และผู้เสียหายร้องเรียนถึงพฤติกรรมของผู้ชักชวนที่ไม่ได้เน้นการขายสินค้า แต่เน้นให้หาสมาชิกมาสมัคร โดยโฆษณาว่าขายแล้วรวย มีการนำรถหรูหลายสิบคันมาจอดอยู่หน้าบริษัท
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียหายบางคนเป็นเพียงนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ถูกชักชวนให้สมัครแรกเข้า เป็นเงิน 9,300 บาท อ้างว่าจะมีรายได้หลักหมื่นต่อเดือน บางคนบอกว่าไม่มีเงินค่าสมัครแรกเข้า แต่ผู้แนะนำจะพาไปจำนำทอง หรือเสนอให้กู้เงินนอกระบบ
ผู้เสียหายทั้งหมดยื่นหลักฐานยื่นต่อ พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อให้เร่งตรวจสอบบริษัทดังกล่าว ว่าทำธุรกิจขายตรงและกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ ซึ่งประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ มองว่า พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ขายตรง และตลาดแบบตรง
ด้านผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงฯ เปิดเผยว่า จะสอบปากคำผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์วันนี้ทั้งหมด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและเตรียมตรวจสอบหากผิดจริงจะมีโทษหนัก เพราะเมื่อปี 2557 บริษัทดังกล่าวเคยประกอบธุรกิจขายตรงก่อนขออนุญาต จึงสั่งปรับเมื่อปี 2558 เป็นเงินกว่า 1,000,000 บาท