ตร.เตรียมนำคู่กรณีเข้าเครื่องจับเท็จ พิสูจน์สลากฯ 30 ล้านบาท

อาชญากรรม
7 ธ.ค. 60
19:08
882
Logo Thai PBS
ตร.เตรียมนำคู่กรณีเข้าเครื่องจับเท็จ พิสูจน์สลากฯ 30 ล้านบาท
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเร่งคลี่คลายคดีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท และเตรียมนำคู่กรณีเข้าเครื่องจับเท็จพิสูจน์

วันนี้ (7 ธ.ค.2560) ความคืบหน้ากรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนใน จ.กาญจนบุรี เข้าแจ้งความ กรณีสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 คู่ เป็นเงิน 30 ล้านบาทสูญหายไป และ ร.ต.ท.จรูญ วิมล ตำรวจนอกราชการ ได้นำสลากฯ ทั้ง 5 ชุด มาขึ้นเงินรางวัล เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา

ล่าสุด พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตำรวจได้สืบสวนคู่กรณีรวมถึงพยานจากทั้ง 2 ฝ่ายเรียบร้อยแล้ว โดยเตรียมตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้ตั้งคณะทำงานชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนี้แล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากเป็นคดีสังคมจับตามองและให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วจะมีการนำทั้งคู่เข้าเครื่องจับเท็จ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนหาความจริง ยืนยันเจ้าหน้าที่ทำคดีด้วยความตรงไปตรงมา ไม่มีการรู้เห็นกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน

 

 

ก่อนหน้านี้ นายปรีชา และ ร.ต.ท.จรูญ ต่างเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งคดีดังกล่าว ถ้าที่สุดแล้วพบว่าเจ้าของตัวจริง คือ ร.ต.ท.จรูญ จะทำให้อีกฝ่ายถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จ แต่หากฝ่ายครูเป็นเจ้าของสลากฯ อดีตตำรวจก็อาจถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์เช่นกัน

ขณะที่นายศุภกร สุดสงวน ทนายความของนายปรีชา อ้างว่าได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.จรูญ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหาลักทรัพย์ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความและออกหมายเลขคดีแล้ว โดยได้เรียก ร.ต.ท.จรูญ มาสอบถามหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าซื้อสลากฯมาจากที่ไหน บอกเพียงว่าซื้อมาจากคนขายที่มีรูปร่างอ้วนและขาว ซึ่งเมื่อถูกซักหนักเข้าก็อ้างว่าจำไม่ได้

ขณะที่ข้อกล่าวหาของ ร.ต.ท.จรูญ ที่มีต่อนายปรีชาและกลุ่มผู้ค้าล็อตเตอร์รี่ว่าเป็นขบวนการที่ต้องการแบ่งเงินรางวัล 15 ล้านบาทนั้น นายศุภกร ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีพยานหลักฐานครบถ้วน และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งอาจพิจารณาแจ้งความดำเนินคดี ร.ต.ท.จรูญ ฐานหมิ่นประมาท ในเร็วๆ นี้

 

 

สำหรับความคืบหน้าทางคดีตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยทั้งคู่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงประสานไปยังธนาคาร เพื่อขอให้อายัดเงินในบัญชีที่ได้จากรางวัลดังกล่าวไว้ก่อน เพราะต้องรอการพิสูจน์สิทธิว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริง

ร.ต.อ.จิรายุทธ ชัชรินทร์กุล รองสารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ระบุว่า การอายัดบัญชีเงินฝากใช้หลักประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 131 และ 132 ซึ่งขณะนี้ได้เชิญ ทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ครูผู้แจ้งความ อดีตตำรวจผู้ถูกกล่าวหา และแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มาสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว และจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งให้ศาลพิจารณาต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งได้สอบปากคำพยานทั้ง 2 ฝ่าย ไปมากกว่า 10 ปาก และอยู่ระหว่างลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงจะส่งสลากไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และดำเนินการนำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าเครื่องจับเท็จของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มีส่วนรู้เห็นเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ หากผู้ใดมีพยานหลักฐาน ให้นำมามอบให้การกับพนักงานสอบสวน ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ตามพยานหลักฐาน

 

 

ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า กรณีสลากถูกขโมยจะต้องไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจสอบสวนดำเนินคดี จากนั้นเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิซึ่งต้องใช้เวลา ไม่สามารถนำเงินรางวัลไปใช้จ่ายได้ทันที หากเป็นสลากการกุศล จะมีอายุในการนำไปขึ้นรางวัล 10 ปี ถ้าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลปกติ มีอายุในการขึ้นเงินรางวัล 2 ปี

สำหรับผู้ที่กุเรื่องแจ้งความกล่าวหาว่าถูกขโมยสลากอาจถูกดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ซื้อสลากควรถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ เป็นหลักฐานป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นขโมยหรือฉวยโอกาส นำไปขึ้นเงินรวมถึงให้ถ่ายรูปกับเจ้าของแผงลอตเตอรี่ที่ซื้อมาด้วย ก็จะเป็นหลักฐานยืนยันอีกทางหนึ่ง สำหรับผู้ที่ถูกรางวัลไม่จำเป็นต้องไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานสามารถนำไปขึ้นรางวัลได้ทันที

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง