กระเทียมเถื่อนกว่า 1 ตันถูกทิ้งไว้บนถนนเลียบแม่น้ำโขง บ้านนาโปกลาง เทศบาลเมืองมุกดาหาร หลังฝ่ายความมั่นคงตั้งด่านสกัด แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันหลบหนีไปได้ โดยเหตุการณ์นี้เป็น 1 ใน 4 ครั้งในรอบสัปดาห์ที่ฝ่ายความมั่นคงสามารถตรวจยึดการลักลอบนำเข้ากระเทียมเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านได้มากกว่า 5 ตัน
การลักลอบนำเข้าจะทำแบบกองทัพมด ขนผ่านแม่น้ำโขงจากประเทศเพื่อนบ้านมายังฝั่งประเทศไทย ใช้เวลาเพียง 5 นาที ก่อนนำไปพักไว้ตามโกดังริมแม่น้ำโขงและทยอยขนไปยังจุดกระจายสินค้าทั้งใน จ.ศรีสะเกษ และ จ.ร้อยเอ็ด อีกส่วนจะไปนำขายยังตลาดไท จ.ปทุมธานี โดยปะปนกับกระเทียมที่นำเข้าถูกกฎหมายเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม
ฤดูกาลเก็บเกี่ยวกระเทียมในประเทศจีน ทำให้มีสินค้าจ่อทะลักเข้าประเทศไทยจำนวนมากและเส้นทางลำเลียงจากท่าเรือประเทศเวียดนาม มายังแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว มีระยะห่างกันเพียง 250 กิโลเมตร และอีกปัจจัยสำคัญคือความต้องการในตลาดของผู้บริโภคคนไทย ทำให้ขบวนการลักลอบนำเข้ากระเทียมเถื่อนยอมเสี่ยงกระทำผิดกฏหมาย
ทั้งนี้ กระเทียมจีนได้รับอนุญาตให้นำเข้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งหากเป็นกระเทียมภายในโควต้าจะเสียภาษีนำเข้าอัตราร้อยละ 27 กระเทียมนอกโควต้าจะเสียภาษีอัตราร้อยละ 57 แต่การจำกัดโควต้าและภาษีนำเข้าที่สูง ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กใน จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นเมืองตรงข้ามแขวงสะหวันนะเขต ลักลอบนำเข้ากระเทียมเถื่อนอย่างต่อเนื่อง