พรุ่งนี้ขึ้นศาลนัดแรก ‘เหมืองทองเลย’ ฟ้อง ‘นักข่าวพลเมืองไทยพีบีเอส’

สังคม
20 พ.ค. 61
20:48
622
Logo Thai PBS
พรุ่งนี้ขึ้นศาลนัดแรก ‘เหมืองทองเลย’ ฟ้อง ‘นักข่าวพลเมืองไทยพีบีเอส’
วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.) ผู้บริหารไทยพีบีเอส ขึ้นศาลนัดแรกในคดีบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ฟ้องนักข่าวพลเมืองไทยพีบีเอส ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีนำเสนอประเด็น ‘เหมืองทองเลย’ โดยเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.2561) ศาลอาญานัดพร้อมคดีบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ฟ้องไทยพีบีเอสและบุคลากร รวม 5 คน ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารและโทรทัศน์ เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ให้จำเลยทั้ง 5 มาศาลเพื่อให้การแก้ข้อกล่าวหา พร้อมนัดประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐานในเวลา 09.00 น.ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการสื่อสารประเด็นของเยาวชนนักข่าวพลเมือง ผ่านรายการนักข่าวพลเมืองตอนค่ายเยาวชนฮักบ้านเจ้าของ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นำมาสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำใน จ.เลย ต่อไทยพีบีเอสและบุคคลากร ไปจนถึงมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเยาวชนนักข่าวพลเมือง

ที่ผ่านมา ไทยพีบีเอสได้ดำเนินการช่วยเหลือทางคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้องตามระเบียบขององค์กร รวมทั้งสื่อสารประเด็นเพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเยาวชนนักข่าวพลเมืองได้ยุติไป เนื่องจากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.เลย มีความเห็นไม่อนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องเยาวชนนักข่าวพลเมืองต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี กล่าวหาเยาวชนนักข่าวพลเมืองว่าหมิ่นประมาท โดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพระบายสี ภาพยนตร์ฯ ไม่มีการดำเนินคดีต่อ

สำหรับคดีที่บริษัท ทุ่งคำ จำกัด โดยนายสมชาย ไกรสุทธิวงศ์ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจโจทก์ ฟ้องร้องต่อไทยพีบีเอส เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.3756/2558 ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและโทรทัศน์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 พร้อมความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 และ 16 เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

โดยจำเลยที่ 1-5 ของคดีตามลำดับ ประกอบด้วย
1. วิรดา แซ่ลิ่ม ผู้ดำเนินรายการช่วงข่าวพลเมือง
2. องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.)
3. สมชัย สุวรรณบรรณ อดีต ผอ.ส.ส.ท.
4. ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าว
5. โยธิน สิทธิบดีกุล ผู้อำนวยการสำนักโทรทัศน์และวิทยุ

ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2559 โดยในคำพิพากษาระบุว่า จำเลยทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาข่าวในข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม เสนอข้อมูลตามที่มีการตรวจสอบโดยหน่วยงานราชการ แม้จะทำให้เกิดความเข้าใจว่าโจทก์เกี่ยวข้องทำให้เกิดผลกระทบ แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง ติชมด้วยความเป็นธรรม ไม่เกินขอบเขตวิสัยที่ประชาชนพึงกระทำได้

ต่อมาโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ และเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2561 ศาลอาญารัชดา อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ประทับฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กับรับฟ้องโจทก์ในคดีส่วนแพ่งไว้พิจารณา และให้มีการนัดพร้อมในวันที่ 21 พ.ค.2561 เวลา 09.00 น.

ดังนั้น รศ.ดร.วิลาสินี พิพิธกุล ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ในฐานะตัวแทนนิติบุคคล และจำเลยทุกคน ต้องเดินทางไปศาลในวันและเวลาดังกล่าวเพื่อแสดงตน

สำหรับบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เป็นผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ เจ้าของสัมปทานเหมืองแร่ทองคำในพื้นที่ อ.วังสะพุง จ.เลย มีกรณีการดำเนินการฟ้องร้องระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2550 และผลประกอบการของบริษัทฯ ขาดทุนสะสมเกือบพันล้าน เมื่อปี 2555 ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2561 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด จากกรณีธนาคารดอยซ์ แบงก์ เอจี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้บริษัทฯ ล้มละลาย และศาลได้มีคําสั่งลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ทุ่งคํา จํากัด จําเลย เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483

ข่าวที่เกี่ยวข้อง