"ศศิน"ถูกใจคสช.เบรกเขื่อนแม่วงก์-ไม่โดนใจ "ปลดล็อก"อีไอเอ

ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ประเมินนโยบายสิ่งแวดล้อม 4 ปี คสช.ยอมรับความเข้มงวดปราบปรามผู้กระทำความผิดด้านทรัพยากรชัดเจนขึ้น แต่ยังแก้ปัญหาไม่จบเรื่องชุมชนในเขตป่า ประมงพื้นบ้าน ไม่โดนใจปลดล็อกขั้นตอนอีไอเอ แต่ถูกใจเบรกเขื่อนแม่วงก์

วันนี้(22 พ.ค.2561) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ประเมินการทำงานครบรอบ 4 ปีของรัฐบาล คสช.โดยระบุว่า เรื่องของการบริหารจัดการใช้ทรัพยากรโดยตรง เช่น ป่าไม้ ทะเล ค่อนข้างชัดเจนว่ามีการดูแลที่เข้มงวดขึ้นดีขึ้นในเชิงนโยบาย

แต่ยังไม่มีการแก้ปัญหาคาราคาซังให้ลุล่วง อย่างกรณีชุมชนที่ต้องอยู่กับป่า หรือแม้แต่ชุมชนประมงพื้นบ้านที่ต้องทำงานกับภาครัฐ เพื่อดูแลทรัพยากรทะเล ในเชิงนโยบายยังไม่ชัด ยกเว้นการแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย ขณะที่ยอมรับว่าความเด็ดขาดในการออกมาตรการปราบปรามผู้บุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติ

ภาพ:เฟซบุ๊กศศิน เฉลิมลาภ

แต่ที่ไม่ชัดเจนคือเรื่องโครงการพัฒนาทางด้านธุรกิจ เช่นพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือโครงการอีอีซี จะมีผลดีหรือไม่ดีอย่างไร การใช้ความเหลื่อมล้ำของการใช้ทรัพยากรของคนจน คนรวย และการยกเว้นการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ในหลายโครงการที่เกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจไม่ชัดเจน แต่นโยบายที่ที่ดี คือริเริมทำกาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์(เอสอีเอ)ในโครงการขนาดใหญ่ที่อาจมีผลกระทบวงกว้าง

ถ้าให้ประเมินแล้วโดนใจคนอนุรักษ์ สำหรับผมคือรัฐบาลคสช.ไม่ดึงดันที่จะสร้างเขื่อนแม่วงก์ ซึ่งถูกใจมากที่สุด และยังเปิดให้กรมชลประทาน หน่วยงานอื่นๆนึกถึงทางเลือกการจัดการน้ำ รวมทั้งการยกเลิกโครงการขยายถนนในป่าน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือปากบารา จ.สตูล และ และการที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขไอยูยู รัฐบาลตอนบสนองปัญหาที่ดีพอสมควร

ส่วนโครงการที่ไม่ถูกใจ คือเรื่องที่รัฐบาลลดขั้นตอนการดำเนินการกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ เช่นให้โครงการรัฐจัดหาผู้รับเหมาได้ในระหว่างการทำอีไอเอ ในโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งโรงไฟฟ้าไม่ใช้คำตอบสุดท้ายของการแก้ปัญหาขยะ เป็นต้น

ภาพ:เฟซบุ๊กศศิน เฉลิมลาภ

นายศศิน กล่าวอีกว่า ในแง่ของการออกกฎหมาย และแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมสำคัญๆหลายฉบับ ถึงจะยังไม่แล้วเสร็จเพราะยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ทั้งพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ.2535 พ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำพ.ศ.. และพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ซึ่งต้องรอว่าจะคลอดออกมาทันในรัฐบาลคสช.หรือไม่ แต่เชื่อว่าถ้ากำหมายเหล่านี้ผ่านแล้วจะแก้ปัญหาต่างๆครอบคลุม