ก.พลังงานใช้เงินกองทุนน้ำมันพยุงราคาดีเซล

เศรษฐกิจ
23 พ.ค. 61
11:08
597
Logo Thai PBS
ก.พลังงานใช้เงินกองทุนน้ำมันพยุงราคาดีเซล
กระทรวงพลังงาน เตรียมดึงเงินกองทุนน้ำมันพยุงราคาดีเซล ไม่ให้ราคาขายปลีกเกิน 30 บาทต่อลิตร คาดดำเนินการระยะสั้นเพียง 10 เดือน หลังจากนั้นหากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังปรับขึ้นอีกประชาชนอาจต้องปรับตัว

วันนี้ (23 พ.ค.2561) นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ กระทรวงพลังงาน เตรียมนำเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบวิกฤตราคาน้ำมันผันผวนอย่างรวดเร็วต่อผู้บริโภค ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาเห็นชอบนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปัจจุบันมีเงินคงเหลือประมาณ 30,000 ล้านบาท เป็นเครื่องมือแบ่งเบาราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลร้อยละ 50 ของราคาที่ควรจะเพิ่มขึ้น เพื่อรักษาระดับราคาขายปลีกไม่ให้เกินกว่า 30 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลาสั้นๆ เงินกองทุนจะเพียงพอสำหรับการดำเนินมาตรการดังกล่าวได้ประมาณ 10 เดือน โดยหาก กบง.เห็นชอบจะสามารถดำเนินการได้ทันที ในระหว่างที่ยังไม่มีจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ (B20) ในสถานีบริการช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้

ส่วนสถานที่จำหน่ายดีเซล B20 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลที่ผสมน้ำมันปาล์ม 20% ในทุกลิตรนั้น จะหารือกับภาคเอกชนกำหนดจุดจำหน่ายที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะใช้สถานที่ในสถานีจอดรถบัสหรืออู่รถบรรทุก เพื่อป้องกันความสับสนของผู้บริโภค ซึ่งราคาจำหน่ายดีเซล B20 เป็นราคาที่ต่ำกว่าดีเซลทั่วไป 3 บาทต่อลิตร ซึ่งจะจำหน่ายให้กับรถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะและเรือ เพื่อพยุงไม่ให้ต้องปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร ลดผลกระทบกับประชาชน

นอกจากนี้ ในช่วงที่ราคาน้ำมันผันผวนได้ผ่อนผันการประกาศราคาน้ำมันล่วงหน้าได้เหมือนเดิม โดยจะให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ประกาศการปรับราคาน้ำมันผ่านทางเว็บไซต์ของ สนพ. และให้บริษัทน้ำมันประกาศได้เหมือนที่ผ่านมา จนกว่าจะผ่านพ้นช่วงราคาน้ำมันโลกที่ผันผวนสูง หลังจากนั้นจะพิจารณานโยบายเกี่ยวกับการประกาศราคาน้ำมันล่วงหน้าอีกครั้ง

ส่วนราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ที่ขณะนี้มีราคาสูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนก๊าซหุงต้มบรรจุถังขนาด 15 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประเมินว่าไม่น่าส่งผลกระทบยาวนาน เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนของซีกโลกเหนือแล้ว ทำให้ความต้องการใช้แอลพีจีมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ราคาก๊าซหุงต้มน่าจะลดลงตามไปด้วย

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นและเริ่มส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถโดยสาร รถขนส่ง แต่กระทรวงคมนาคมได้ขอให้ชะลอการปรับขึ้นค่าโดยสารและค่าขนส่งสินค้าไว้ก่อน เพื่อผลการศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคาใหม่ที่จะเสร็จสิ้นในเดือน ก.ค.นี้ ดังนั้น ในส่วนของค่าโดยสารจึงยังไม่สามารถปรับขึ้นได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง