ไม่ใช่แค่ความผิดปกติ อาหารกลางวันของเด็กนักเรียนอนุบาล และประถมศึกษา เท่านั้น แต่ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ยังพบความผิดปกติในโครงการอาหารกลางวัน ที่เกิดขึ้นกับโครงการของเด็กมัธยมศึกษาของโรงเรียนแห่งเดียวกันด้วย ซึ่งได้รับงบประมาณ สนับสนุนจากเทศบาลตะพานหินปีละ 3 ล้านบาท โดยมีใบรายการจัดซื้อวัตถุดิบประกอบอาหาร แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับไม่มีวัตถุดิบและสิ่งของให้ตรวจสอบ
เมนูล่องหน ซึ่งอยู่ในกลุ่มโครงการอาหารกลางวันของเด็กมัธยมที่นี่ มีด้วยกัน 60 คน ได้รับงบประมาณจากเทศบาลตะพานหิน เฉลี่ยปีละ 3,000,000 บาท เพื่อสนับสนุนให้เด็กนักเรียนได้มีอาหารกลางวันกินเฉลี่ย 20 บาท ต่อเด็ก 1 คน
นายธัชธรรม ศรีทา รองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ตั้งข้อสังเกตในฐานะประธานตรวจรับวัตถุดิบและพัสดุอาหารกลางวันในขณะนั้นว่า การการตรวจสอบในช่วงระหว่างวันที่ 5-9 มิ.ย.2560 เป็นช่วงที่ไม่พบวัตถุดิบและพัสดุตามที่มีใบรายการสั่งเลย แม้กระทั่งน้ำปลาขวดเดียวก็ไม่มีให้ตรวจรับ
นายธัชธรรม ศรีทา รองผู้อำนวยการโรงเรียน
นายธัชธรรม ศรีทา รองผู้อำนวยการโรงเรียน
เปิดเมนูล่องหน สั่งของ-ไม่มีให้ตรวจรับ
ทั้งหมดนี้ เป็นใบรายการสั่งซื้อวัตถุดิบและพัสดุเพื่อใช้ประกอบอาหาร ในช่วงระหว่างวันที่ 5 - 9 มิ.ย.2560 โดยวันที่ 5 มิ.ย.เป็นการประกอบเมนู 2 อย่างคือ "หมูหวาน" และ "แกงเขียวหวานปลากราย" มีคำสั่งซื้อทั้งหมด 14 รายการ ราคารวม 1,119 บาท
วันที่ 6 มิ.ย.2560 ใบสั่งซื้อประกอบอาหารเมนู"ราดหน้ารวมมิตร" มีคำสั่งซื้อทั้งหมด 19 รายการ ราคารวม 1,198 บาท
นายธัชธรรม ศรีทา รองผู้อำนวยการโรงเรียน ที่เป็นประธานตรวจรับตรวจสอบ ไม่พบวัตถุดิบตามคำสั่งซื้อ เช่นเดียวกับ วันที่ 7 มิ.ย.2560 มีใบสั่งซื้อวัตถุดิบ เมนู"ข้าวมันไก่" ขอจัดซื้อจำนวน 15 รายการ ราคารวม 1,203 บาท เป็นที่น่าสังเกตว่า วัตถุดิบรายการแรกที่จัดซื้อ คือ สั่งอกไก่ จำนวน 6 กิโลกรัมเท่านั้น
จำนวนเด็กมัธยมที่นี่ มีจำนวน 60 คน นั่นหมายถึง เด็กจะได้กินไก่เฉลี่ยคนละ 1 ขีด เท่านั้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว เมนูนี้ ก็ไม่มีวัตถุดิบให้ตรวจรับเช่นกัน
วันที่ 8 มิ.ย.2560 มี 2 เมนูคือ "ไข่น้ำหมูสับ" กับ "ผัดพริกแกงถั่วฝักยาว" มีคำสั่งซื้อจำนวน 15 รายการ รวมราคา 1,200 บาท แต่การตรวจรับฯ ก็ไม่พบรายการวัตถุดิบเหล่านี้แม้แต่รายการเดียว
ส่วนวันที่ 9 มิ.ย.2560 สุ่มตรวจสอบ เป็นเมนู "ผัดกะเพราหมูสับ" สังเกตดูรายการที่หนึ่งและสอง สั่งหมูบด 4 กิโลกรัม และ ใบกะเพรา จำนวน 1 กำเท่านั้น รองรับเด็ก 60 คน แต่สุดท้ายแล้วคำสั่งซื้อทั้ง 11 รายการนี้ รวม 1,200 บาท กลับไม่มีของให้ตรวจรับเช่นกัน
พบความผิดปกติ แต่ถูกสั่งให้ลาออก
รองผู้อำนวยการโรงเรียน ยืนยันกับไทยพีบีเอสว่า ได้ทำหน้าที่ตรวจรับในช่วงนั้น แต่ไม่พบของจริง และเมื่อแจ้งให้ผู้บริหารรับทราบ กลับมีคำสั่งให้รองผู้อำนวยการคนนี้ ทำบันทึกลาออกจากการเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ เพื่อจะได้สรรหาพนักงานครูทำหน้าที่แทน และทำให้ตัดสินใจร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ ป.ป.ช.
รายการสั่งซื้อของฝั่งมัธยมทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ช่วง 5-9 มิ.ย.2560 มีทั้งสิ้น 47 รายการสำหรับนักเรียนมัธยมทั้งหมด 60 คน แต่วัตถุดิบเหล่านี้ไม่มีของให้ตรวจรับเลย ทั้งๆที่ถ้าของมาพร้อมกันทั้งระดับประถมและมัธยม วัตถุดิบจะต้องมีเพิ่มขึ้น และไม่ขาดด้วย แต่วัตถุดิบไม่มีให้ตรวจสอบ รายละเอียดอื่นๆ คือใช้ใบสั่งซื้อแบบเดียวกับของประถม เพราะของมัธยมไม่มีของเข้ามา แต่กลับนำไปสั่งซื้อไปเบิกเงินเต็มจำนวน ซึ่งโครงการของเด็กมัธยมได้รับสนับสนุนจากเทศบาลเมืองตะพานหินปีละ 3 ล้านบาท แต่มันไม่มีของให้
"เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วนำไปสู่การร้องเรียนเพราะมันมีความผิดปกติ ไม่ต้องการให้เสียประวัติ เหตุการณ์แบบนี้เคยร้องเรียนมาแล้ว แต่มีผู้ใหญ่คนหนึ่งบอกว่าที่ไหนๆ ก็ทำกันมันเป็นแบบนี้แหละ แล้วเราเป็นครู เราสอนนักเรียนให้ร้องเพลงทุกวัน "โตไปไม่โกง โตไปไม่โกง" แม้คนเกี่ยวข้องยืนยันว่าสุจริตบาทเดียวก็ไม่เอา แต่ในเมื่อเอกสารมันแสดงแบบนี้จะเรียกว่าอะไรมันเป็นความผิดปกติ และเรื่องนี้ยังไม่มีบทสรุปจากต้นสังกัดแม้ผ่านไปแล้วเกือบปี คนทำงานก็ทำงานแบบไม่มีความสุข ตอนนี้ครูในโรงเรียนไม่กล้ามาสนทนาด้วย ทุกวันนี้ทำงาน" รองผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าว
เปิดคำสั่ง ผอ. "ให้ลาออก"
เมื่อพบความผิดปกติ นายธัชธรรมได้ทำบันทึกข้อความแจ้งถึงผู้อำนวยการโรงเรียน เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2560 แจ้งให้ทราบในฐานะประธานกรรมการตรวจรับพัสดุว่า การตรวจรับในระหว่างวันที่ 5-9 มิ.ย.2560 ไม่พบวัสดุในการประกอบอาหารกลางวัน ตามรายการที่ขอจัดซื้อ จึงไม่สามารถเซ็นตรวจรับรายการวัสดุดังกล่าวได้ ซึ่งบันทึกดังกล่าว นอกจากนายธัชธรรมได้แจ้งถึงผู้อำนวยการแล้ว ยังมีการลงนามแจ้งจากพนักงานจ้างตามภารกิจอีกหนึ่งคนที่เขียนแจ้งให้ผู้อำนวยการรับทราบและพิจารณาต่อกรณีที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันผู้อำนวยการได้เขียนด้วยลายมือลงในเอกสารที่นายธัชธรรมทำบันทึกแจ้งมาหา แจ้งกลับไปโดยมีข้อความระบุว่า “ให้ทำบันทึกลาออกจากการเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ เพื่อจะได้ดำเนินการสรรหาพนักงานครูทำให้หน้าที่แทนต่อไป” ลงชื่อ ผู้อำนวยการโรงเรียน
สำหรับโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ทางเทศบาลเมืองที่รับผิดชอบ ได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 (งบมาจากแผนงานการศึกษา งานศึกษาไม่กำหนดระดับ หมวดค่าใช้สอยประเภทรายจ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติราชการที่ไม่เข้าลักษณะรายจ่ายหมวดอื่นๆ) มาเป็นค่าใช้จ่ายในการประกอบอาหาร โดยตั้งงบประมาณไว้ปีละ 3,000,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัสดุมาประกอบอาหาร โดยโรงเรียนในสังกัดเทศบาลแห่งนี้ ได้ทำรายงานขอจัดซื้อวัสดุในการประกอบ
เมื่อผู้บริหารไม่ได้ตรวจสอบตามที่แจ้งไป ทำให้นายธัชธรรมยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประจำจังหวัดพิจิตร และเทศบาลเมืองตะพานหิน หน่วยงานต้นสังกัด
ภัทราพร ตั๊นงาม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส
อ่านข่าวเพิ่มเติม
โกงงบฯ อาหารกลางวันเด็กนักเรียน จ.พิจิตร
ป.ป.ช.คาดสรุปผลสอบ "โกงอาหารกลางวัน" ก.ค.นี้
ชำแหละ ! 47 วัตถุดิบเมนูล่องหน
ใบเสร็จ..เสร็จใคร? พิรุธส่วนต่างค่าวัตถุดิบ