"นายกรัฐมนตรี" ชื่นชมทุกทีมร่วมภารกิจค้นหา 13 ชีวิตสำเร็จ

สังคม
3 ก.ค. 61
12:17
863
Logo Thai PBS
"นายกรัฐมนตรี" ชื่นชมทุกทีมร่วมภารกิจค้นหา 13 ชีวิตสำเร็จ
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณผู้ว่าฯเชียงราย ที่ปฏิบัติงานได้อย่างดี และชื่นชมการทำงานของทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันช่วยเหลือทีมหมูป่า 13 ชีวิตอย่างปลอดภัย ขณะที่ผลการประเมินเบื้องต้นสุขภาพ 11 คนอยู่ในกลุ่มสีเขียวอาการปกติ ส่วนอีก 2 ระดับสีส้มคืออ่อนเพลีย

วันนี้ (3 ก.ค.2561) ความคืบหน้าหลังจากพบทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีทั้ง 13 คนมีความปลอดภัยหลังติดถ้ำหลวงนาน 10 วัน ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล จากตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มาที่จังหวัดเชียงราย โดยพูดคุยกับ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมปฏิบัติการถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และคณะกรรมการศูนย์ฯ ในภารกิจช่วยเหลือน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี และโค้ช ทั้ง 13 คน

โดยนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคน รู้สึกยินดีที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ท้องถิ่น ภาคประชาสังคม ร่วมกันทำงานจนประสบผลสำเร็จเรียบร้อยทุกประการ ขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนัก การทำงานครั้งนี้นับเป็นความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ เป็นแบบอย่างในการทำงาน โดยใช้วิกฤตเป็นโอกาส และสร้างระบบการทำงานที่ดีในอนาคต รวมทั้งเป็นการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ร่มพระบารมีแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่พระราชทานกำลังใจและความช่วยเหลือมาโดยตลอด

การดำเนินการนับจากนี้ไปขอให้หาวิธีที่เหมาะสม ในการนำน้องๆ ออกมาอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย เพราะยังมีความยากลำบาก เนื่องจากยังมีน้ำขังอยู่ในถ้ำ ทราบว่ามีการระบายน้ำตลอดเวลา ขอให้ดำเนินการให้เรียบร้อย ไม่เกิดอันตรายใดๆ เมื่อน้องๆ ออกมาแล้วให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และไม่อยากให้มีการแถลงข่าวของทั้ง 13 คน ในระยะนี้ เมื่อสุขภาพแข็งแรงดีแล้ว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เคยพูดไว้ก่อนหน้าแล้วว่าความสำเร็จอยู่ที่แรงศรัทธาของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ และผู้ปฏิบัติงานทุกคน ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นผู้ที่ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง ทหาร ตำรวจ พลเรือน สื่อมวลชน และทุกภาคส่วน ขอชื่นชมและให้ตั้งมั่นในการทำความดี ต้องการคนดีมาบริหาร

ปัญหาที่เกิดขึ้นขอให้นำมาแก้ไข เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ดูแลพี่น้องประชาชนโดยรอบที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นไร่นา สวนเกษตร ฯลฯ ให้กลับสู่สภาพเดิม และสำรวจถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนให้ปลอดภัย เชื่อว่าจะเป็นที่สนใจของทั้งคนไทยและต่างประเทศ และจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในอนาคต รวมถึงดูแลถ้ำอื่นๆ ด้วย ขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมต่างๆ ให้กลับสู่ภาวะปกติ

 

ลากสายโทรศัพท์ให้ครอบครัวพูดคุยกับลูกๆ  

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมภายในถ้ำหลวง ทุกอย่างเรียบร้อยดี เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ขณะนี้นักดำน้ำ ลำเลียงอาหารและน้ำดื่มพร้อมนำ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน และหน่วยพยาบาลเวชศาสตร์ใต้น้ำของกองทัพเรือ เข้าไปประเมินสภาพร่างกาย และให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นให้นำ อาหารเสริมพาวเวอร์เจล ยารักษาโรค และอาหารบางอย่างเข้าไปเนื่องจากหากไม่ได้กินอาหารเกิน 10 วันอาจทำให้ระบบน้ำย่อย ทำงานได้ไม่ดี โดยในจำนวน 13 คนพบว่า 11 คนอยู่ในระดับสีเขียวคือสบายดี ส่วนอีก 2 คนสีส้ม เช่นมีอาการอ่อนเพลียแต่ไม่น่าเป็นห่วง

นอกจากนี้หน่วยซีลจะลากสายโทรศัพท์ จากกองบัญชาการที่โถง 3 เข้าไปในจุดที่เด็กๆอยู่ เพื่อให้ญาติที่อยู่ด้านนอกถ้ำ บริเวณศูนย์แถลงข่าว สามารถติดติดสื่อสารกับน้องๆได้ พร้อมเร่งสูบระบายน้ำออกจากถ้ำ เนื่องจากขณะนี้ระดับน้ำภายในถ้ำจากปากถ้ำไปถึงบริเวณกองบัญชาการของหน่วยซีลอยู่ในระดับเข่า แต่เลยสามแยกไป จะอยู่ในระดับหน้าอกไปจนถึงคอ

 

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

ภาพ:กระทรวงสาธารณสุข

 

เปิดแผนลำเลียงส่งต่อโรงพยาบาล

ด้านนพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 1 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า  การเตรียมการแพทย์มีความพร้อมเต็มที่ โดย เตรียมชั้น 8 ของหอผู้ป่วยฉุกเฉิน ของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อดูแลเฝ้าระวังอาการ ซึ่งทันทีที่มาถึงจะตรวจเลือด จากนั้นจะให้พักในห้องแยกโรค เบื้องต้นจะเฝ้าระวังเป็นเวลา 7 วัน ก่อนจะมีการตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งเพื่อความแม่นยำว่าทุกคนปลอดภัย

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับโภชนาการอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ขาดสารอาหารเป็นเวลา 10 วัน เจ้าหน้าที่ได้ส่งข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อจัดส่งอาหารเพื่อฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงเพียงพอที่จะออกมาจากถ้ำได้

ส่วนเรื่องสายตา จากเท่าที่สังเกตการวานนี้เชื่อว่าไม่มีปัญหามากนักนอกจากนี้ เตรียมทำการ์ดสำหรับทีมกู้ภัย-นักประดาน้ำ ที่ได้เข้าช่วยเหลือทุกคน เพื่อให้ตรวจสภาพร่างกายหากมีความผิดปกติหลังเสร็จสิ้นปฏิบัติการช่วยเหลือทั้ง 13 คน ซึ่งโรคที่เฝ้าระวังคือ โรคฉี่หนู เชื้อไวรัสจากสัตว์ในถ้ำ

 

เบื้องต้น 13 คนอาการดี-พูดคุยได้  

กระทรวงสาธารณสุขรายงานงานเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมดูแลโค้ชและทีมนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 คน หลังพบทั้งหมดในถ้ำหลวงแล้ว โดยระบุว่า อาการเบื้องต้น จากการประเมินทุกคนอาการดี พูดคุยได้ ยังไม่ทราบสัญญาณชีพอื่นๆ เช่น ชีพจร ระดับความดันโลหิต ซึ่งจะช่วยบ่งบอกถึงอาการขาดน้ำ โดยเตรียมพร้อมส่งต่อมารับการดูแลต่อเนื่องที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ดูแลสุขภาพทีมนักฟุตบอลและโค้ชทั้ง 13 คนทันทีที่รับส่งตัวมาจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนอย่างเต็มที่ พร้อมยินดีรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหน่วยงานทุกสังกัด เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างดีที่สุด ขณะนี้ได้จัดหอผู้ป่วยที่ชั้น 8 พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ มีทีมแพทย์เฉพาะทางทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ จักษุแพทย์ แพทย์หู-คอ-จมูก กุมารแพทย์ วิสัญญีแพทย์ จิตแพทย์ ศัลยแพทย์ ศัลยแพทย์กระดูก แพทย์เวชกรรมฟื้นฟู รังสี-แล็บ จัดพยาบาลให้การดูแลอย่างใกล้ชิด 1 ต่อ 1 คน และทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team : MCATT) ดูแลจิตใจเด็ก ๆ โค้ช และญาติ พร้อมทั้งจัดที่พักญาติสายตรงทั้ง 52 คน

นพ.เจษฎา กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการรักษา เตรียมแผนการตรวจวินิจฉัยเพื่อให้การดูแลรักษาที่เหมาะสมกับอาการของแต่ละคน โดยเจาะเลือดเพื่อประเมินสภาวะสุขภาพเบื้องต้น ระดับน้ำตาลในเลือด และตรวจหาการติดเชื้อ เช่น โรคฉี่หนู โรคระบบทางเดินหายใจ เอกซเรย์ปอด ให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนอาการขาดน้ำ โดยเฉพาะด้านสายตาจะมีจักษุแพทย์ประเมินอาการทุกวันจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนี้ ได้จัดระบบติดตามอาการผู้ปฏิบัติงานหลังเสร็จสิ้นภารกิจ มีบัตรประจำตัว พร้อมคำแนะนำให้สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับฟังความคืบหน้าด้านการดูแลรักษาเมื่อทีมนักฟุตบอลเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยจะมีการแถลงข่าวทุกวันจากผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง