อันซีน "อัตตะปือ" ดึงคนท่องเที่ยวลาวเพิ่มเม็ดเงินรายได้

สังคม
26 ก.ค. 61
17:56
3,209
Logo Thai PBS
อันซีน "อัตตะปือ" ดึงคนท่องเที่ยวลาวเพิ่มเม็ดเงินรายได้
รัฐบาลลาว ผลักดันนโยบายด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะแขวงจำปาสัก -แขวงอัตตะปือ เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่จะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน ดึงนักท่องเทียวมาเยือนลาวใต้ คาดจะช่วยให้ประเทศลาวมีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 6 ล้านคนภายในปี 2563

ประเทศลาว เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ส่งผลให้มีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้ แร่ธาตุและทรัพยากรน้ำ สามารถผลิตกระเเสไฟฟ้าจากพลัง งานน้ำ เพื่อการส่งออกเป็นจำนวนมหาศาล นอกจากนี้รัฐบาลได้ส่งเสริมนโยบายด้านการท่องเที่ยว โดยคาดหวังว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ จะช่วยให้ประเทศลาวหลุดพ้นจากประเทศด้อยพัฒนา

นโยบายของรัฐบาลประเทศลาว ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ 5 ปี ครั้งที่ 8 ระหว่างปี 2559-2563 ตั้งเป้าจีดีพี ขยายตัวไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 7.5 ต่อปี

ในปีนี้หน่วยงานเศรษฐกิจหลายแห่งคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของประเทศลาว จะเติบโตมากกว่าร้อยละ 6 และจะปรับตัวขึ้นเป็นร้อยละ 7 ในปีหน้าด้วยแรงหนุนจากการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น

 

และการขยายตัวของภาคบริการ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้สองส่วนนี้เป็นสองรายได้หลักของประเทศ เนื่องจากข้อจำกัดด้านแรงงานที่มีน้อยและยังไม่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมมากนัก

แม้เหตุการณ์สันเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างแตก จนทำให้รัฐบาลลาวประกาศเป็นภัยพิบัติ ผศ.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ประเมินว่า จะไม่กระทบเป้าหมายแบตเตอรี่เอเชียอาคเนย์ของลาว เพราะทรัพยากรน้ำที่มีปริมาณมหาศาล ขณะเดียวกัน ความต้องการพลังงานจากหลายประเทศยังคงเพิ่มขึ้น

แต่ละโครงการในสปป.ลาวทำโครงการหลายเขื่อนมีความศักยภาพในการผลิต บางเขื่อนมีกำลังการผลิต 1,200 เมกกะวัตต์ และ 1,800 เมกกะวัตต์ และเกินร้อยละ 80 ส่งไฟฟ้าออก เพราะภายในประเทศยังไม่มีความต้องการใช้ไฟมากสินค้าส่งออกคือพลังงาน 


ปัจจุบันประเทศลาว มีเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำแล้ว 39 เขื่อน และ อีก 53 โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือ อยู่ในแผน  โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าถือเป็น 2 ใน 3 ของ มูลค่าการส่งออกรวมของประเทศ

เปิดพื้นที่อัตตะปือ "อันซีน" ดึงท่องเที่ยว 

ขณะที่บริเวณพื้นที่ทางใต้ของประเทศลาว อย่างแขวงจำปาสัก และแขวงอัตตะปือ เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการจะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเช่นกัน 

นายศักดา พิริยะกิจไพบูลย์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอุบลราชธานี กล่าวว่า  บรรยากาศทางใต้ของประเทศลาว มีลักษณะเป็นหุบเขา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแบบ unseen และยังอยู่ในช่วงบุกเบิก  ซึ่งผู้ประกอบการไทยและประเทศเพื่อนบ้าน มีการสำรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงอินโดจีน ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานีของไทย แขวงจำปาสัก แขวงอัตตะปือ กัมพูชา จนถึงเวียดนาม  หากสำเร็จ เชื่อว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกมาก


ส่วนปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าว คาดว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นคิดว่าจะเป็นผลกระทบช่วงหน้าฝน  ถ้ามีอันตรายจะไม่เข้าในจุดนี้ แต่หากพัฒนาจุดนี้ได้ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ 

 

หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลลาวยกให้การท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจที่สำคัญขณะเดียวกัน ได้ประกาศนโยบาย Visit Laos Year 2018 หรือ เยือนลาว 2018 โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศ

จากนโยบายดังกล่าว คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปประเทศลาวจะมากกว่า 6 ล้านคน ภายในปี 2563 สร้างรายได้มากกว่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง