วันนี้ (14 ส.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดบ้านบุ่ง อ.สาริกา จ.นครนายก เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าทะลักที่คลองนางรอง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกสูงขึ้น ครอบครัวสาครเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ เพราะมีบ้านพักอยู่ริมตลิ่งและสามีเป็นผู้ป่วยติดเตียง ต้องขอความช่วยเหลือจากชุมชนเตรียมรับมือกับน้ำตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
น.ส.ธรรมรัตน์ สาคร ชาวบ้านวัดบ้านบุ่ง กล่าวว่า การแจ้งข่าวสารต่างๆกับลูกบ้าน กำนันจะแจ้งผ่านไลน์กลุ่มที่ตั้งกันไว้ เมื่อมีเหตุการณ์น้ำป่ามาหรือมีปริมาณน้ำผิดปกติจะแจ้งระดับเพื่อให้ทุกคนเตรียมตัว
ตอนแรก็กังวลว่าถ้าไม่มีคนช่วยเราจะทำอย่างไร เพราะแฟนป่วย เราทำได้แค่พาเขาขึ้นรถ ส่วนของต่างๆ คงทิ้งไว้ที่บ้าน
การแจ้งเตือนเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ทุกคนรับมือได้ทัน ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบเพียง 3 หมู่บ้าน จากพื้นที่เฝ้าระวัง 3 ตำบล ได้แก่ ต.สาริกา ต.ทินตั้ง และต.สีนาวา
ชาวบ้าน ระบุว่าพื้นที่ริมตลิ่งสองฝั่งส่วนใหญ่มีการเสริมตลิ่งด้วยซีเมนต์ ซึ่งช่วยบรรเทาน้ำได้ดีขึ้น ทหารจากกองพันทหารราบ รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า นำกำลังเข้ามาช่วยเสริมกระสอบทราย กันน้ำไหลย้อนเข้าแหล่งน้ำชุมชน
นายเจษฎา บุญสุยา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาขุนด่านปราการชล กล่าวว่า น้ำป่าที่ทะลักในคลองนางรอง ไม่ส่งผลต่อน้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชล เพราะอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน ซึ่งขณะนี้เขื่อนยังมีน้ำอยู่ในระดับปกติ 174 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 77% ของความจุ และเริ่มระบายน้ำ 20 ล้านลบ.ม.วินาที หลังจากระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกลดลง
น้ำที่หลากมาจากเขาเขียว เป็นน้ำป่าที่มีปริมาณมาก เมื่อวานนี้เรางดการระบายน้ำจากเขื่อน เพื่อไม่ให้น้ำไหลลงไปเพิ่มในลำน้ำนครนายก เพราะไม่อยากให้ชาวบ้านเดือดร้อน
แม้สถานการณ์จะคลี่คลายแล้ว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารน้ำทุกระดับยังคงติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด โดยเฉพาะ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี จะนำทีมผู้บริหารสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่พรุ่งนี้
ขณะที่ชลประทานจังหวัด เตรียมเพิ่มการระบายน้ำสูงสุด หลังวันที่ 20 ส.ค.61 และพร่องน้ำจากลำน้ำสาขา เพื่อเตรียมรับมือกับฝนรอบใหม่