วานนี้ (9 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันยูเอส โอเพ่น รอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว สั่งปรับเงินเซเรน่า วิลเลี่ยมส์ เป็นเงิน 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 540,000 บาท จาก 3 ความผิด ที่เกิดขึ้นกับนายคาร์ลอส รามอส แชร์แอมไฟร์ ผู้ตัดสินในเกมนัดชิงชนะเลิศ
ทางยูเอส โอเพ่น ระบุว่า เซเรน่า มีความผิดฐานใช้วาจาไม่สุภาพต่อนายรามอส ที่ถือสิทธิ์ขาดในสนามเป็นเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐและ อีก 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากการถูกตักเตือนเรื่องรับสัญญาณจากโค้ช เนื่องจากตามกฏของ แกรนด์ สแลม โค้ชและผู้เล่นไม่มีสิทธิ์ส่งสัญญาณใดๆ ทั้งสิ้นระหว่างแข่งขัน และอีก 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากโทษฐานระบายอารมณ์ด้วยการฟาดแร็กเก็ตลงพื้น แต่ยังไม่มีรายงานว่าเซเรน่า จะขออุทธรณ์บทลงโทษนี้หรือไม่
ขณะที่บิลลี่ เจน คิงส์ อดีตตำนานนักเทนนิสของสหรัฐอเมริกา ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์เทนนิสอาชีพสตรีของสหรัฐ หรือ WTA ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว บีบีซี สนับสนุนการกระทำของเซเรน่า ที่แสดงต่อนายรามอส ว่าเป็นการปกป้องสิทธิสตรี ซึ่งในช่วงระหว่างเกมเซเรน่า ต่อว่านายรามอสว่าเป็นคนโกหก เพราะดูถูกเธอที่พยายามโกงคู่ต่อสู้ด้วยการรับแทคติกจากโค้ช
ส่วนนายแพทริก โมราโตกรู โค้ชของเซเรน่า ที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2012 ให้สัมภาษณ์สวนทางกับ เซเรน่า ว่าเขาได้ พยายามส่งสัญญาณเพื่อเป็นการบอกแทคติกจริง แต่เซเรน่า ไม่ได้มองมาทางเขาแต่อย่างใด ซึ่งโมราโตกรู ยังบอกว่า โค้ชของโอซากะ ก็ทำเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่ามันเป็นเรื่องปกติที่โค้ชจะต้องพยายามช่วยผู้เล่นอยู่แล้ว ทางด้านเซเรน่า ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมโมราโตกรู ถึงพูดเช่นนี้ เพราะเธอไม่ได้มองไปทางเขาเลย และตลอดการทำงานกันมาก็ไม่เคยวางแผนเรื่องการส่งสัญญาณบอกแทคติกแต่อย่างใด