วันนี้ (16 ก.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อ.ควนโดน จ.สตูล แจ้งเตือนผู้ปกครองหลังมีภาพเด็กๆ ลงเล่นน้ำที่ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง เสี่ยงพัดพาเด็กหาย แม้น้ำจะท่วมไม่สูงมากก็ตาม โดยน้ำท่วมปีที่ผ่านมามีเด็กจมน้ำเสียชีวิตไป 2 คนแล้ว
ขณะที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล รายงานสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ควนกาหลง ละงู ท่าแพ และอำเภอเมืองสตูล และมีแนวโน้มขยายวงกว้าง เนื่องจากยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยพื้นที่ตัวเมืองสตูล โรงเรียนหลายแห่ง รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจถูกน้ำท่วม ไทยพีบีเอสลงพื้นที่พบสภาพโรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล ถูกน้ำท่วมตั้งแต่คืนที่ผ่านมา และยังมีอีก 2 โรงเรียนถูกน้ำท่วมเช่นกัน คือ โรงเรียนบ้านย่านซื่อมิตรภาพ 147 และโรงเรียนบ้านโคกประดู่
นายวิรัต สวัสดี ผอ.โรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล เล่าว่าได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เก็บอุปกรณ์การเรียน การสอนไว้บนที่สูง โดยระดับน้ำได้ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มฝนยังคงตกหนักกระจาย และที่ตั้งของโรงเรียนแห่งนี้จะเป็นจุดรองรับน้ำก่อนไหลออกสู่ทะเล
โดยปีที่ผ่านมาโรงเรียนประสบปัญหาน้ำท่วมมากถึง 3 ครั้ง ทางโรงเรียนก็ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำและได้ประกาศให้หยุดการเรียนการสอนในวันจันทร์นี้เป็นเวลา 1 วัน ก่อนที่จะประเมินสถานการณ์น้ำและมีประกาศอีกครั้ง
ขณะที่บนถนนยนตราการกำธรหน้าโรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล น้ำท่วมเส้นทางจราจรเช่นเดียวกับย่านเศรษฐกิจตลาดสดเทศบาลตำบลฉลุง ขณะนี้ต้องจมอยู่ใต้กระแสน้ำไม่สามารถค้าขายได้ตามปกติ พ่อค้าแม่ค้าต้องอพยพไปเปิดแผงตลาดชั่วคราวริมฟุตบาท ร้านค้าหลายแห่งต้องอพยพข้าวของขึ้นไว้ที่สูงเพื่อหนีน้ำ
กระบี่คลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กงดออกจากฝั่ง
ด้านเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ตัดโค่นต้นสนขนาดใหญ่ที่ล้มขวางถนน จากภาวะฝนตกหนักและลมพัดแรง ขณะที่น้ำในคลองกระบี่ใหญ่ จ.กระบี่ ที่รับน้ำมาจากคลองทับปริก เทือกเขาพนมเบญจา เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ประชาชนริมคลองกระบี่ใหญ่ เตรียมขนย้ายทรัพย์สิน สัตว์เลี้ยงไปไว้ที่ปลอดภัย
ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง เจ้าของเรือประมงขนาดเล็ก ทั้งใน จ.ตรังและ จ.ปัตตานี ต้องนำเรือกลับเข้าฝั่ง จอดตามแนวป่าชายเลนเพื่อกำบังลม คลื่นซัดเข้าหาฝั่งซึ่งอาจทำให้เรือแตกเสียหายได้
ขณะนี้มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยฝั่งทะเลอันดามัน เฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ต้นไม้หักโค่น และเรือขนาดเล็ก งดออกจากฝั่ง เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรงสูง 2-3 เมตร จากอิทธิพลของพายุมังคุด จนถึงวันที่ 19 ก.ย.นี้
4 อำเภอ ปราจีนบุรียังจมบาดาล
ระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรียังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายน้ำอย่าง อ.บ้านสร้าง วัดบางกระเบาพระอารามหลวง และบ้านเรือนริมแม่น้ำปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมเกือบทั้งหมด ชาวบ้านริมสองฝั่งแม่น้ำ ต้องซื้อเรือมาใช้เดินทาง เช่นเดียวกับพื้นที่เกษตร ถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง สาเหตุจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ อ.บ้านสร้าง เป็นพื้นที่รับน้ำมาจาก อ.กบินทร์บุรี ศรีมหาโพธิ ประจันตคาม และเมืองปราจีนบุรี
ขณะที่มวลน้ำจากแม่น้ำนครนายกและมวลน้ำป่าจาก อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่ปราจีนบุรีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่บ้านหนองปร่าง ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมเหล่ากาชาดจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม หลังฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้บ้านเรือนกว่า 50 หลังถูกน้ำท่วม
บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เบื้องต้น ได้มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่ เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะคาดว่าจะมีฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุลูกใหม่ อีก 1-2 วันนี้
พื้นที่การเกษตรเหนือเขื่อนเพชรเสียหาย 1,200 ไร่
ส่วนสถานการณ์ใน จ.เพชรบุรี ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง ที่อยู่เหนือเขื่อนเพชร ถูกน้ำท่วมมาตั้งแต่เดือน ส.ค. ส่งผลให้พืชสวนเสียหายแบบสิ้นเชิงไปแล้วกว่า 1,200 ไร่ ขณะที่กรมชลประทานยังไม่สามารถสร้างคันดินได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ต้องใช้งบประมาณสูง