วันนี้ (28 ก.ย.2561) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 เพื่อติดตามความคืบหน้า และขับเคลื่อนบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือทช.กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการรายงานภาพรวมสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่สำคัญ และการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย พ.ศ.2560
โดยพบว่าสถานภาพแนวปะการังฝั่งอันดามันมีความเสียหายมากกว่าฝั่งอ่าวไทย มีขยะมูลฝอยใน 23 จังหวัดชายฝั่งทะเลเกิดขึ้น 11.47 ล้านตัน เป็นขยะพลาสติกถึง 3.4 แสนตัน โดยร้อยละ 10 – 15 มีโอกาสปนเปื้อนลงสู่ทะเล
ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งยาว 704 กิโลเมตรพบมีการก่อสร้างรุกแนวชายฝั่งทะเล 70 กิโลเมตร แนวโน้มทรัพยากรทางทะเลเปลี่ยนแปลงไปจากการกระทำของมนุษย์ มากกว่าธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณเกาะแก่งสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวในภาคใต้ มีกิจกรรมการใช้ประโยชน์มากขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อแนวปะการัง สัตว์น้ำ และระบบนิเวศน์ทางทะเลมากขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการออกประกาศของทส.เรื่องมาตรการคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในพื้นที่เกาะไข่ใน เกาะไข่นอกและเกาะไข่นุ้ย อ.เกาะยาว จ.พังงา และพื้นที่ เกาะราชาใหญ่ เกาะราชาน้อย อ.เมือง จ.ภูเก็ต รวมทั้ง มาตรการคุ้มครองทรัพยากรประการัง จากกิจกรรมท่องเที่ยวดำน้ำ ซึ่งมอบให้ ทช. ดำเนินการต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณและให้กำลังใจ ทส.รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมรณรงค์ขับเคลื่อนลดการใช้ถุงพลาสติกอย่างเป็นผลต่อเนื่องมา ส่งผลให้พฤติกรรมนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ เปลี่ยนไปในเชิงอนุรักษ์และการหวงแหนท้องถิ่นร่วมกันอย่างกว้างขวางมากขึ้น โดยขอให้รณรงค์และให้ความรู้กับประชาชนในภาพรวมและ 24 จังหวัดชายฝั่งทะเล และกทม. อย่างจริงจังต่อเนื่องกันไป
ในโอกาสเดียวกันนี้ พล.อ.ประวิตร มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” แก่คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ทำคุณประโยชน์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ