วันนี้ (29 ก.ย.2561) น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินในประเทศไทยทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น ว่า เป็นภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเวลาประมาณ 22.27 น.
ท่าอากาศยานได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สายการบินไลอ้อนแอร์ ขอให้เจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณห้องพักรอผู้โดยสารส่งกลับ โดยผู้โดยสารชาวจีนคนดังกล่าวเดินทางด้วยสายการบินไลอ้อนแอร์ จากกรุงจาการ์ตาร์ ประเทศอินโดนิเซีย ได้ยื่นขอวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของสนามบินดอนเมือง (Visa on arrival) แต่ถูกปฏิเสธการเข้าเมือง เพราะให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนและไม่แสดงเอกสารยืนยันการเข้าพักในประเทศไทย จึงต้องอยู่ในห้องพักรอผู้โดยสารซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมเตรียมส่งตัวกลับประเทศ
แต่ต่อมาเกิดการสื่อสารไม่เข้าใจและผู้โดยสารได้ออกจากพื้นที่ควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามออกมาปะปนกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการควบคุมตัว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตระเวนบันดาลโทสะและใช้กำลังทำร้ายผู้โดยสารตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้ให้สายการบินไลอ้อนแอร์ดำเนินการส่งตัว Mr.Mei Ji กลับด้วยเที่ยวบิน SL 038 เส้นทาง ทดม.-กวางโจว เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 00.45 น.
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวว่า เสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย และยินดีบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมทั้งจะทำหนังสือผ่านสถานทูตจีนเพื่อขอโทษผู้เสียหายต่อไป
ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนที่ก่อเหตุได้มีคำสั่งไล่ออก เนื่องจากถือว่าผิดวินัยอย่างร้ายแรง ทั้งการแสดงกริยาไม่เหมาะสมและกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ
นอกจากนี้ ทอท.ได้สั่งพักงาน ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง และ ผู้อำนวยการฝ่ายรักษาความปลอดภัยฯ เป็น 30 วัน เพื่อสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย ทอท.ต้องส่งผลการสอบสวนไปให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยตรวจสอบต่อไป
ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวจีนอ้างว่ามีการเรียกเก็บเงินซึ่งเป็นค่าทิปนั้น พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รองผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมือง 2 และโฆษกกองบังคับตรวจคนเข้าเมือง 2 กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง โดยปกติวีซ่าจะต้องดำเนินการที่สถานทูตแต่เนื่องจากการทำวีซ่าที่ ตม.จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 2,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ยืนยันว่า กรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนอ้างว่ามีการเก็บเงินเพิ่มเติมไม่เป็นความจริง
ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศได้แนบเงินมาให้แต่ ตม.ได้มีการบันทึกภาพว่าเจ้าหน้าที่ ตม.ได้คืนเงินแล้วซึ่งที่ผ่านมามีประมาณ 40-50 คน ขณะที่ในการสอบสวนนักท่องเที่ยวจีนที่ผ่านมาไม่มีปัญหาการกระทบกระทั่งเจ้าหน้าที่
หลังจากนี้ ทอท.จะเปิดช่องทางพิเศษเป็นการเฉพาะให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนใน 5 ท่าอากาศยานหลักตามด่านตรวจคนเข้าเมืองผู้โดยสารขาเข้า ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดช่องทางพิเศษ 18 ช่อง, ท่าอากาศยานดอนเมืองเปิดช่องทางพิเศษ 21 ช่อง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่เปิดช่องทางพิเศษ 8 ช่อง, ท่าอากาศยานภูเก็ตเปิดช่องทางพิเศษ 18 ช่อง และท่าอากาศยานหาดใหญ่เปิดช่องทางพิเศษ 10 ช่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เสียใจเหตุ รปภ.สนามบินทำร้ายนักท่องเที่ยวจีน