สาม ส. เสียงแตก คำวิจารณ์จากกรณีนายอนุชา นาคาศัย ร่วมเปิดตัวพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งไม่ผิดคาด หากจะมองในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสามมิตรและพรรคพลังประชารัฐ เพราะนับแต่เปิดตัวกลุ่มสามมิตร ยืนยันตลอดว่าจะร่วมงานกับพลังประชารัฐ และหนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่อีกมุมหนึ่ง ถูกมองว่าการแยกกลุ่มเปิดตัวเดี่ยวๆ อาจเพราะอักษรย่อ ส. ในพรรคมีความขัดแย้งกัน โดยเฉพาะการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ลงเลือกตั้ง เพราะมีผู้สมัคร ส.ส. จากหลายค่าย ทั้งที่นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ทาบทาบก่อนหน้า มินับรวมที่ “ทหาร” ทาบทามร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ จึงมีหลายพื้นที่ที่ผู้สมัคร ส.ส. ซ้ำเขต จนทำให้แบ่งส.ส. –แบ่งเขต ไม่ลงตัว
มิหนำซ้ำยังมีข่าวถึงนายสมศักดิ์และนายสุริยะ เตรียมย้ายค่ายกลับไปซบพรรคภูมิใจไทย เพราะสาเหตุ 1.นายสุริยะ คือผู้ร่วมก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย และ 2. นายสมศักดิ์ ก็เคยร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยในช่วงที่พรรคมัชฌิมาธิปไตยถูกยุบ ปี 2551
สาเหตุทั้งหมดนี้จึงนำมาสู่การตั้งโต๊ะแถลงข่าวของ ส.-สมศักดิ์ สยบรอยร้าว
3 ส. ยังมีความหมาย ?
ตีกัน-ดีกัน ไม่ใช่ความสัมพันธ์ใหม่ของการเมืองไทย แต่ภาพนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แต่ภาพความสัมพันธุ์นี้ น่าจะลดความหวาดหวั่นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีต่อพลังดูด ส.ส.ของกลุ่มสามมิตรมิใช่น้อย เพราะไม่ทันเลือกตั้งก็มีข่าวเสียงแตก-ผลประโยชน์ไม่ลงตัวให้เห็นแล้ว
ไม่ต่างจากคำคาดการณ์ของ ผศ.สุรฤทธิกุล อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ที่เคยให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสว่ากลุ่มสามมิตรแค่ “สร้างราคา” สร้างภาพว่ามีคอนเนกชั่นกับท็อปบูท
แต่สุดท้ายทุกอย่างเฉลย ว่าอำนาจต่อรองระหว่างกลุ่มสามมิตรกับพรรคพลังประชาชนมีช่องว่าง
ทบทวนสมการเลือกตั้ง ปี 2562 (ถ้าเกิดขึ้นจริง) พรรคพลังประชารัฐยังต้องการเสียง เกิน 375 เสียง (125 ส.ส. + 250 ส.ว.)เพื่อดัน “ใครซักคน” เป็นนายกรัฐมนตรี
250 เสียง ส.ว. คือของตาย เพราะไม่ว่ามาโดยตำแหน่ง สรรหา หรือเลือกกันเอง สุดท้าย คสช. คือคนเคาะ! เหลือแต่เสียง ส.ส. ไม่ต่ำ 125 เสียง ที่จะต้องหาเพิ่ม
กลุ่มสามมิตร จึงเป็น “มิตร” ที่ไม่อาจละเลย เพราะยิ่งประกาศตัวว่ามีผู้สมัคร ส.ส. หน้าเก่า-หน้าใหม่ 70 คน ถ้าหากเลือกตั้งแล้วได้ 70 เสียงจริงๆ ก็เกินครึ่งของ ส.ส. ที่ตั้งเป้าไว้
ที่เหลือแค่ 1.พรรคพลังประชารัฐหาผู้สมัคร ส.ส.เพิ่ม หรือ 2. รอหลังเลือกตั้ง รอจับมือกับพรรคขนาดกลาง ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทย พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอื่นๆ ที่พร้อมสนับสนุน “ใครซักคน” เป็นนายกรัฐมนตรี
“สามมิตร” จึงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังมีความหมาย