"สุริยะ" ชี้นายกฯ ไม่ต้องลาออกแม้ถูกเสนอชื่อ

การเมือง
6 ธ.ค. 61
11:59
394
Logo Thai PBS
 "สุริยะ" ชี้นายกฯ ไม่ต้องลาออกแม้ถูกเสนอชื่อ
แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องลาออกจากตำแหน่ง แม้พรรคจะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมมั่นใจพรรคจะกวาด 150 ส.ส.ทั่วประเทศ

วันนี้ (6 ธ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาแนวการรับสมัครสมาชิกภาคกลาง โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมชี้แจง ได้แก่ นายสุชาติ ตันเจริญ นายอนุชา นาคาศัย นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค

นายสุริยะ กล่าวว่า เตรียมจัดทำนโยบายที่ตอบสนองประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงและที่นั่ง ส.ส.ในรัฐสภามากที่สุด และมั่นใจว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วเสร็จจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมีพรรคต่างๆ มาร่วมด้วย แม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะปฏิเสธจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาล และผลักดัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ถึงแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.ที่เลือก ส.ว. 250 คน ซึ่งมีสิทธิ์ในการร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีนั้น แต่หากได้เสียง ส.ส.ไม่ถึงกึ่งหนึ่งก็ไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งการมี ส.ว.เข้ามาไม่คิดว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้เปรียบ

 

 

 

พร้อมระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากตัดสินใจมาทำงานการเมืองด้วยตัดสินใจมาเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างอิงถึงธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมาในอดีต และย้ำถึงความจำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องบริหารประเทศต่อ ก่อนจะตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความซื่อสัตย์ที่ประชาชนยอมรับได้

นายสุริยะ กล่าวว่า มีความพยายามที่จะจุดกระแสการแบ่งแยกระหว่างพรรคประชาธิปไตยและพรรคที่สนับสนุนเผด็จการที่อ้างอิงถึง พล.อ.ประยุทธ์ โดยเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจดีต่อเจตนาของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เข้ามาจัดการแก้ไขสถานการณ์ในอดีตที่เกิดความแตกแยกขัดแย้ง

นายสุริยะ ย้ำถึงเป้าที่นั่ง ส.ส.150 คน ที่พรรคจะได้ในทั่วประเทศ แบ่งเป็นภาคอีสานราว 60 คน ภาคกลางอีกราว 40 คน โดยเชื่อมั่นว่าพื้นที่ภาคเหนือคะแนนสูสี แม้จะเป็นฐานเสียงเก่าของพรรคเพื่อไทย รวมถึงภาคอีสาน แต่ยอมรับว่าพื้นที่ภาคใต้อาจจะยาก ด้วยเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์

 

 

 

ขณะที่พรรคจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันบางส่วน เช่น บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ก่อนจะย้ำเรื่องนโยบายพรรคที่จะทำมากกว่ารัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร ที่เคยทำนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรคและกองทุนหมู่บ้าน

ส่วนเรื่องโพลคะแนนนิยมของรังสิตโพลที่ออกมาเป็นเรื่องการสำรวจของสำนักโพล แต่ส่วนตัวเชื่อว่าหากผู้สมัครของพรรคลงพื้นที่อย่างเข้มข้น และชี้แจงกับประชาชนต่อสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดำเนินการจะส่งผลให้ความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้แสดงเจตจำนงลงทำงานการเมืองกับพรรคใด

ทั้งนี้ การสัมมนาพรรควันนี้ พรรคเน้นการชี้แจงต่อผู้แสดงเจตจำนงในการลงรับสมัครเลือกตั้งเกี่ยวกับการดำเนินการกิจกรรมของพรรคให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง