เรื่องใหม่ต้องรู้ ในปีหมูทอง

เลือกตั้งใหม่-นายกใหม่?

สำหรับการเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.2562 นี้ มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการเลือกตั้งในหลายส่วน

1.บัตรลงคะแนนใบเดียว ประชาชนสามารถกาบัตรลงคะแนนเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต เพียงใบเดียว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประชาชนมีโอกาสกาลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้จะสามารถกาลงคะแนนเพื่อเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต ได้เพียงอย่างเดียว แต่คะแนนเสียงเหล่านี้จะถูกนำไปรวมเพื่อคำนวณเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย  

2. ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเดียวกัน คนละหมายเลข  ในอดีตคนไทยคุ้นชินกับการจำหมายเลขพรรค เนื่องจาก ผู้สมัคร ส.ส.ที่มาจากพรรคเดียวกันจะใช้หมายเลขเดียวกันทั่วประเทศ แต่การเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ แม้ ส.ส.จะมาจากพรรคเดียวกัน แต่อยู่คนละเขตก็อาจได้หมายเลขต่างกัน

ส.ส.พรรค ก. เขต 1 ได้หมายเลข 1
แต่
ส.ส.พรรค ก. เขต 2 อาจได้หมายเลข 2 

ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลากาลงคะแนนเสียง ประชาชนจะต้องจำให้ได้ว่าผู้สมัครในเขตที่ตนเองหมายตาไว้นั้นใช้หมายเลขใด

3.คะแนน Vote No มีความหมาย เขตเลือกตั้งที่ไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงมากกว่าคะแนนเสียงไม่เลือกผู้ใดเป็น ส.ส. (Vote No) เขตนั้นจะต้องทำการเลือกตั้งใหม่ โดยผู้สมัคร ส.ส.คนเดิมของทุกพรรคจะไม่สามารถลงสมัครได้อีก เพื่อให้ประชาชนได้เลือกผู้แทนที่ต้องการอย่างแท้จริง

4.ขยายเวลาคูหาเลือกตั้ง คูหาเลือกตั้งครั้งใหม่นี้จะมีการขยายเวลาจากเดิม เปิดระหว่าง 08.00 – 15.00 น. เป็นเวลา 08.00 – 17.00 น. หรือปิดช้ากว่าเดิม 2 ชั่วโมง 

5.ส.ว.ที่มาจาก คสช.คัดเลือก โหวตนายกรัฐมนตรีได้ด้วย  

ตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดให้มีการคัดเลือก ส.ว. จำนวน 250 คน โดย ส.ว. 244 คน มาจากการคัดเลือกของ คสช.ในขั้นตอนสุดท้าย ขณะที่อีก 6 คน จะเป็น ส.ว.โดยตำแหน่ง โดย ส.ว.ทั้ง 250 คนนี้ มีสิทธิในการเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส.อีก 500 คน 

ค่ารถเมล์ใหม่ เพิ่ม 1 บาท

ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง มีมติปรับขึ้นค่าโดยสารรถ ขสมก. และรถร่วมบริการ อัตรา 1 บาท โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ อัตราค่าโดยสารใหม่ 21 ม.ค.2562

• รถร้อน 9 บาท เพิ่มเป็น 10 บาท
• รถ ขสมก. 6.50 บาท เพิ่มเป็น 7.50 บาท
• รถปรับอากาศ 11-23 บาทต่อเที่ยว เพิ่มเป็น 12-24 บาทต่อเที่ยว
• รถเอ็นจีวี 11-23 บาทต่อเที่ยว เพิ่มเป็น 15-25 บาทต่อเที่ยว

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเปิดใหม่

งานโยธาการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงระบบรถไฟฟ้า โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงหัวลำโพง-บางแค ในเดือน ก.ย.2562

ทั้งนี้ ในส่วนของ 4 สถานีแรก คือ สถานีวัดมังกร ถึงสถานีอิสรภาพ ที่เป็นโครงสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาแห่งแรกของไทย จะเร่งรัดให้เปิดบริการก่อน เมื่อแก้ไขระบบการจ่ายไฟฟ้าแล้วเสร็จ ส่วนช่วงบางซื่อ-ท่าพระ คาดว่า จะเปิดให้บริการได้ภายในเดือน มี.ค.2563 

"บ้านล้านหลัง"ช่วยคนอยากมีบ้านหลังแรก 

ข่าวดีสำหรับประชาชนที่ต้องการบ้านใหม่ในราคาไม่แพง กับโครงการบ้านล้านหลังของ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งเป็นการให้สินเชื่อราคาถูก เพื่อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะแรกมีงบ 50,000 ล้านบาท โดยให้ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี

สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 25,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 1-5 คงที่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี และจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ ค่าประเมินราคาหลักประกัน ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง

ส่วนผู้ที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาท อัตราดอกเบี้ยในปีที่ 1-3 คงที่ที่ร้อยละ 3 ต่อปี ส่วนการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของธนาคาร ทั้งนี้ ธอส.จะเปิดให้ผู้ที่จองสิทธิสินเชื่อ 30,000 คนแรก ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.2562 และต้องติดต่อยื่นคำขอกู้กับธนาคารภายใน 90 วัน

 
ใบขับขี่ใหม่ แบบดิจิทัล

กรมการขนส่งทางบก เตรียมนำแอปพลิเคชัน DLT SMART LICENCE หรือ ใบขับขี่ดิจิทัล มาใช้ในช่วงเดือน ม.ค.2562 โดยระบบใบขับขี่อัจฉริยะนี้ จะเป็นรูปแบบใบขับขี่ดิจิทัลเสมือนจริงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เชื่อมข้อมูลใบขับขี่ลงไปในแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่อใช้แสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเมื่อถูกเรียกตรวจ และมีระบบแจ้งเตือนระยะเวลาหมดอายุของใบขับขี่ล่วงหน้า เพื่อป้องกันปัญหาใบขับขี่หมดอายุ

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบใบสั่งที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแสดงตำแหน่งโลเคชันของผู้ใช้ในกรณีที่มีอุบัติเหตุหรือต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน พร้อมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น กรุ๊ปเลือด ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัวและสิทธิรักษาพยาบาล ทั้งนี้ใบขับขี่ดังกล่าวจะครอบคลุมทุกประเภททั้งส่วนบุคคลสาธารณะและประเภทพิเศษ

 
ภาษีลูกคนใหม่ (คนที่ 2 ขึ้นไป)

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 46) โดยมีสาระสำคัญ คือ การเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้เสียภาษีที่มีบุตรชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่คนที่ 2 ขึ้นไป ที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป สามารถหักลดหย่อนภาษีได้เพิ่มคนละ 30,000 บาท โดยให้นับลำดับบุตรทุกคน ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตามสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี 2561 ที่จะต้องยื่นรายการในช่วงต้นปี 2562 

นายสมชาย แสงรัตนมณีเดช รองอธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีลูกน้อยลง สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่มีเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการส่งเสริมการมีลูกเพื่อปรับโครงสร้างประชากรวัยทำงานภายในประเทศ ให้เกิดความสมดุล

ซื้อสินค้าผ่านเดบิต-คืนภาษีแบบใหม่

กระทรวงการคลัง เตรียมออกมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ประชาชนที่ซื้อสินค้าผ่านบัตรเดบิต ในอัตราร้อยละ 5 ทุกรายการ ยกเว้นเหล้า เบียร์ บุหรี่ โดยวงเงินซื้อสินค้าได้สูงสุด 20,000 บาท คืนภาษี 1,000 บาท โดยมีระยะเวลาการซื้อสินค้าในช่วงวันที่ 1-15 ก.พ.2562 ส่วนขั้นตอนการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มจะโอนเงินกลับไปยังระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกไว้กับบัตรประชาชนภายใน 15 วัน หลังการซื้อสินค้า

สำหรับมาตรการนี้เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้อีเพย์เมนต์ หนุนร้านค้าเข้าระบบบริการเก็บข้อมูลการขายเเละการจ่ายเงินเมื่อมีการขายสินค้าหรือบริการ หรือระบบ pos ซึ่งช่วยทำให้ร้านค้าเข้าสู่ระบบภาษีของกรมสรรพากรด้วย

ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่

รัฐบาลเตรียมเปิดตัวห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ รวบรวมไฟล์หนังสือ ภาพ เสียง สื่อการเรียนการสอน มอบเป็นของขวัญวันเด็ก 2562 ในโครงการ National e-Library ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นของขวัญสำหรับเด็กและประชาชน ประกอบด้วย 2 ระบบ คือ ระบบ e-Library ประเภทสื่อการเรียนรู้ทั่วไป และระบบ e-library ด้านข้อมูลความรู้สำหรับเยาวชนและประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ ได้หารือร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ หอสมุดแห่งชาติ และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เพื่อพัฒนาโปรแกรมรองรับไฟล์ข้อมูลดิจิทัลที่ได้รับจากส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ มาร่วมพัฒนาแอปพลิเคชัน สำหรับนักเรียนและประชาชนทั่วประเทศได้เข้าถึงข้อมูล ปัจจุบันมีไฟล์ที่พร้อมทำการอัพโหลด ทั้งที่เป็นข้อมูลประกอบการเรียนรู้ ไฟล์เอกสาร เสียง ภาพถ่าย เอกสารหนังสือโบราณ แบบเรียนทั้งเก่าและใหม่ นิยาย การ์ตูนสำหรับเด็ก สื่อเสียงและวีดีทัศน์ รวมทั้งสิ้น 46,666 ไฟล์

เปลี่ยนการใช้ถุงพลาสติกใหม่

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รณรงค์ลดขยะพลาสติกและโฟม โดยมีหลายภาคส่วนให้ความร่วมมือ ทั้งห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อจำนวนมาก ร่วมกันรณรงค์และลงนามความร่วมมืองดใช้ถุงพลาสติก เฉพาะเพียงแค่วันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา สามารถลดถุงพลาสติกได้ 3,600 ล้านใบทั่วประเทศ และในปี 2562 ในทุกวันที่ 4 ของทุกเดือน จะมีการร่วมรณรงค์งดใช้ถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งห้างสรรพสินค้าหลายแห่งได้ส่งเสริมให้มีช่องกรีนเลน (Green lane) สำหรับใส่ถุงผ้าโดยเฉพาะ 

มาตรการนี้ออกมาเพื่อลดปัญหาขยะตกค้างโดยเฉพาะถุงพลาสติกที่พบว่าคนไทยใช้สูงถึง 45,000 ล้านใบต่อปี และมีปัญหาในการจัดการปลายทาง จึงต้องเริ่มต้นจากต้นทางที่ตัวผู้บริโภค