สายการบิน-สนามบิน-ท่าเรือ-ถนน รับมือพายุ "ปาบึก"

ภัยพิบัติ
3 ม.ค. 62
11:08
1,757
Logo Thai PBS
สายการบิน-สนามบิน-ท่าเรือ-ถนน รับมือพายุ "ปาบึก"
การคมนาคมในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก ขณะนี้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคลากร ส่วนสายการบินแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารตรวจสอบสถานะเที่ยวบินก่อนเดินทาง ส่วน ปภ.สุราษฎร์ธานี เปิดศูนย์ติดตามสถานการณ์พายุปาบึก


วันนี้ (3 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งผู้โดยสารตรวจสอบสถานะเที่ยวบิน ก่อนการเดินทาง ระหว่างวันที่ 3-5 มกราคม 2562 สามารถติดต่อเพื่อขอเปลี่ยนแปลงการเดินทาง หรือตรวจสอบสถานะเที่ยวบินได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ศูนย์บริการลูกค้า โทร 1771 ขณะที่สายการบิน จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะพายุอาจส่งผลกระทบในเส้นทางบินเข้าและออกจากจังหวัดในภาคใต้ของประเทศไทย

 

 

 

นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ได้สั่งสนามบินภาคใต้ โดยเฉพาะบินที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เช่น สนามบินสุราษฎร์ธานี ชุมพร ตรัง ระนอง ส่วนนครศรีธรรมราชได้เตรียมการร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว โดยเตรียมพร้อมคันกั้นน้ำ และเตรียมเครื่องสูบน้ำ ชลประทานมาขุดลอกทางน้ำให้ระบายออกเพิ่มได้ 5 เส้นทาง

ขณะเดียวกัน มีแผนรองรับกรณีที่สภาพอากาศไม่เหมาะสมจนต้องปิดสนามบิน เพราะเบื้องต้นประเมินว่าพายุจะรุนแรงมาก และจะต้องประสานสายการบินในการรองรับผูโดยสาร และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตำรวจ ทหาร มาช่วยอำนวยความสะดวก

ขณะที่กรมเจ้าท่าออกประกาศเตือนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเรือเล็กหรือเรือที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 12 เมตร ควรงดออกจากฝั่ง ระหว่างวันที่ 2-5 มกราคม 2562 เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำ หลังประเมินว่าคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 เมตร

 

 

 

ขณะเดียวกัน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทางน้ำขึ้นในแต่ละสำนักงานเจ้าท่าสาขา โดยให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 เป็นศูนย์บัญชาการในฝั่งอ่าวไทย และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 เป็นศูนย์บัญชาการฝั่งอันดามัน เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่และเรือตรวจการณ์

ส่วนเส้นทางถนน นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ได้เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังในพื้นที่ ทั้งบุคลากร อุปกรณ์ เช่น สะพานเบลีย์ และรถขนย้ายประชาชน รวมถึงเตรียมพร้อมจัดหาทางเลี่ยง เช่นเดียวกับนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท สั่งการให้สำนักของกรมทางหลวงชนบทที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นศูนย์กลาง รวมถึงแขวงทางหลวงชนบท สุราษฎร์ธานี ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง ตามแนวโน้มพายุที่คาดว่าจะรุนแรงในพื้นที่เหล่านี้

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงทั้งการสูบน้ำ การอพยพปศุสัตว์

 

 

 

ส่วนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมไทยพีบีเอสไปสำรวจบริเวณปากอ่าวแม่น้ำตาปี จุดเชื่อมต่อกับทะเล ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) มีเรือบรรทุกขนส่งสินค้าเช่นเรือน้ำมันเรือปูนซิเมนต์ เรือบรรทุกแก๊สและเรือเฟอร์รีตามท่าเรือต่างๆ เริ่มกลับเข้าปากอ่าว แม้จะหยุดวิ่งขนส่งสินค้าแต่วันนี้ไปจนกว่าคลื่นลมจะสงบ 5 มกราคม หลังมีคำเตือนว่าพายุปาบึกจะขึ้นฝั่งกระทบ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันนี้

ขณะที่ชาวบ้านระบุว่า ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์นี้มาก่อนที่มีเรือขนส่งสินค้า และเรือเฟอร์รีกลับเข้าปากอ่าวพร้อมกัน พร้อมทั้งยอมรับว่ากังวลใจพอสมควรว่าจะมีฝนตกหนักใน จ.สุราษฎร์ธานี

 

 

 

สำหรับสภาพอากาศในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี แม้ว่าท้องฟ้าจะมีเมฆฝนปกคลุม แต่ยังไม่มีฝนตกลงมาหนัก ขณะที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้เปิดศูนย์ติดตามสถานการณ์พายุปาบึก ซึ่งมีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและสถาบันทรัพยากรน้ำและการเกษตรนำทีมผู้เชี่ยวชาญมาวิเคราะห์ประมวลสถานการณ์ข้อมูล รวมไปถึงเส้นทางพายุเพื่อที่จะแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้อพยพได้ทันท่วงที

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง