Thailand Web Stat
ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ประวิตร" ยืนยันส่งตัวหญิงซาอุฯ กลับประเทศต้นทาง

อาชญากรรม
7 ม.ค. 62
10:35
3,387
Logo Thai PBS
"ประวิตร" ยืนยันส่งตัวหญิงซาอุฯ กลับประเทศต้นทาง
พล.อ.ประวิตร ยืนยันจะไม่ส่งตัวหญิงชาวซาอุดิอาระเบีย วัย 18 ปี ที่เข้ามาในประเทศไทยโดยที่ไม่มีวีซ่า ไปประเทศที่ 3 ตามการร้องขอ ขณะเดียวกัน "แอมเนสตี้" ขอให้ทางการไทยอย่าส่งตัวหญิงคนดังกล่าวกลับซาอุดิอาระเบีย

จากกรณีเจ้าหน้าที่ท่าอากาศย่านสุวรรณภูมิ ควบคุมตัว น.ส.ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด เอ็ม อัลคูนัน อายุ 18 ปี ชาวซาอุดิอาระเบีย ที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยโดยที่ไม่มีวีซ่า เพื่อดำเนินการสอบสวน โดยหญิงสาวอ้างถึงการหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งหลบหนีจากครอบครัวซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปประเทศคูเวต และพยายามต่อเครื่องบินจากสนามบินแห่งชาติสุวรรณภูมิของไทย เพื่อลี้ภัยไปออสเตรเลีย เพราะหากถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทางเกรงว่าจะถูกครอบครัวทำร้าย

"ประวิตร" ไม่ส่งตัวหญิงซาอุฯ ไปประเทศที่ 3

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้ว่ากรณีนี้เป็นเรื่องระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งขั้นตอนคือต้องดำเนินการตามกฎหมายและส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทาง โดยจะไม่มีการส่งตัวไปประเทศที่ 3 ตามที่เธอร้องขอ เบื้องต้น สถานทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทยได้เข้ามาดูแลและให้การช่วยเหลือแล้ว

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยืนยันว่า นอกจากจะดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ก็จะยึดหลักมนุษยธรรม โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ (UNHCR) เข้าพูดคุยกับหญิงคนดังกล่าวในช่วงค่ำวันนี้ (7 ม.ค.)

พร้อมย้ำว่า หญิงคนดังกล่าวยังคงเก็บตัวอยู่ในห้องพัก และยืนยันว่าต้องการเดินทางไปยังออสเตรเลีย ดังนั้นต้องพูดคุยเพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ เพราะหญิงคนดังกล่าวยื่นความประสงค์จะเดินทางไปออสเตรเลีย ซึ่งต้องถามทางออสเตรเลียด้วยว่าจะรับตัวหรือไม่

"แอมเนสตี้" ขอไทยอย่าส่งตัว "ราฮาฟ" กลับซาอุฯ

ซามาห์ ฮาดิด ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ตะวันออกกลาง แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า ราฮาฟเสี่ยงจะได้รับอันตรายอย่างใหญ่หลวง หากทางการไทยส่งตัวเธอกลับไปซาอุดิอาระเบียผ่านคูเวต เป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งกับรายงานที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่ซาอุฯ ได้ยึดหนังสือเดินทางของเธอช่วงที่เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ นอกจากนั้นการยึดหนังสือเดินทางโดยพลการยังละเมิดสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการเดินทางอีกด้วย

เธอได้แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความกลัวด้านความปลอดภัยของตนเอง หากเธอต้องเดินทางกลับไปหาครอบครัวอาจทำให้เธอถูกดำเนินคดีอาญาในซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากขัดขืนกฎหมายที่บังคับให้ผู้หญิงต้องอยู่ใต้การกำกับดูแลของญาติที่เป็นผู้ชาย (male guardianship) โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UN High Commissioner for Refugees) ได้ร้องขอที่จะเข้าพบราฮาฟ ทางการไทยยังไม่ยินยอมตามคำขอ ทางการไทยต้องดำเนินการตามคำขอโดยทันที และประกันให้มีการเคารพต่อสิทธิที่จะแสวงหาที่ลี้ภัย

ทางการไทยจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อห้าม ไม่ให้ส่งตัวบุคคลไปยังสถานที่ใดๆ ที่มีความเสี่ยงอย่างแท้จริง ว่าจะถูกปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ราฮาฟมีสิทธิเข้าถึงหลักประกันที่เป็นธรรมและเป็นผล เพื่อคัดค้านการส่งตัวกลับไปประเทศตนเอง และเข้าถึงการคุ้มครองระหว่างประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้