ชายวัย 55 ปี ยันไม่ยอมความคดีจักรยานยนต์พุ่งชนบนทางเท้า

สังคม
14 ก.พ. 62
17:50
1,434
Logo Thai PBS
ชายวัย 55 ปี ยันไม่ยอมความคดีจักรยานยนต์พุ่งชนบนทางเท้า
ชายถูกรถจักรยานยนต์พุ่งชนบนทางเท้า ปมไม่พอใจถูกตักเตือน ยืนยันไม่ยอมความคู่กรณี เบื้องต้นตำรวจ สน.นางเลิ้ง แจ้ง 2 ข้อหา แม้ก่อนหน้านี้ได้พยายามช่วยเจรจาให้คู่กรณียอมความ

วันนี้ (14 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กประเสริฐ แซ่อึ้ง เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนหลานหลวง เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่นายศศะวสุ ช่ำชองยนต์ วัย 55 ปี ผู้เสียหาย ยืนอยู่บนทางเท้า และมีชาย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนทางเท้า แต่ผู้เสียหายไม่ยอมหลบ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จึงขับหลีกไปทางด้านซ้าย และต่อมาได้ย้อนกลับมาชนผู้เสียหายจนล้มลง

ผู้เสียหาย ระบุว่า ได้สอบถามผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวว่า "นี่มันทางเท้าบีบแตรทำไม" แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับพยายามเจรจาให้ไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ และยืนยันว่าจะไม่ยอมความ

ขณะที่ พ.ต.อ.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยว่า ตำรวจพยายามไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีจริง แต่ผู้เสียหายไม่ยอม ร้อยเวรสอบสวนจึงให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นและขับรถบนทางเท้า โดยจะนัดคู่กรณีมาสอบสวนเพิ่มเติม

 

กทม.เรียกปรับสูงสุด 5 พันบาท

นายยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ชี้แจงว่าจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่กวดขันของเขต แต่ช่วงเวลาที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่อื่น เบื้องต้นรับทราบจากตำรวจว่า ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีและมีการไกล่เกลี่ยกันแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้

ล่าสุด เขตได้ประสานผู้กระทำผิดเพื่อให้มาเสียค่าปรับสูงสุด 5,000 บาท เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเจตนาจงใจ โดยจะเข้ามาเสียค่าปรับในวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) แต่หากไม่มาจะทำหนังสือเชิญผู้กระทำผิดมาเสียค่าปรับ และหากยังไม่มาอีกจะส่งเรื่องให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตระเวนรอบพื้นที่ตามช่วงเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงปัจจุบันพบผู้กระทำความผิดจอดและขับบนทางเท้า ทั้งรถจักรยานยนต์และรถเข็นรวม 25 คัน

 

สถิติ 7 เดือน เสียค่าปรับ 6.3 ล้านบาท

ขณะที่นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ยืนยันว่า มาตรการจับปรับของกรุงเทพมหานครใช้ได้ผล สะท้อนจากสถิติผู้กระทำผิดลดลงและมียอดค่าปรับเพิ่มขึ้น จากการปรับเพิ่มค่าปรับที่สูงขึ้น แต่ยอมรับว่ายังพบผู้ฝ่าฝืน ซึ่งเป็นเรื่องของการขาดจิตสำนึกของบุคคล ที่ผ่านมากำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวด แต่อำนาจการจับกุมของเทศกิจค่อนข้างมีข้อจำกัด แตกต่างกับตำรวจที่จับปรับได้ทันที

ขณะนี้กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างสำรวจความเหมาะสมและเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดบนทางเท้าและเฝ้าระวังเหตุเพิ่มเติม จากนั้นจะของบประมาณและคาดว่าจะติดตั้งได้ภายในปีนี้

ข้อมูลจากสำนักเทศกิจ ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.2561 ถึงปัจจุบัน จับผู้ฝ่าฝืนจอดและขับขี่บนทางเท้าแล้ว 14,316 คน ในจำนวนนี้เสียค่าปรับแล้ว 9,785 คน รวมเป็นเงิน 6,387,200 บาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง