วันนี้ (1 มี.ค.2562) วันที่ 5 ไทยพีบีเอส จัดรายการ 10 วัน 1000 นาที ชี้อนาคตประเทศไทย พูดคุยกับแกนนำพรรคการเมือง 5 พรรคเกี่ยวกับทิศทางในประเด็น "นักการเมืองรุ่นใหม่" ที่หลายคนฝากความหวังนักการเมืองรุนใหม่และมองไปไกลกว่าแค่ “สีสันทางการเมือง”
คนรุ่นใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองได้ไหม
นายคริส โปตระนันทน์ พรรคอนาคตใหม่ บอกว่า มั่นใจคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงการเมืองได้ มั่นใจว่าทำได้ ส่วนนายเตช เตชะพัฒน์สิริ พรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่า มั่นใจมาก เชื่อว่าคนรุ่นใหม่-รุ่นเก่า จะก้าวไปด้วยกัน เปลี่ยนแปลงประเทศ
เช่นเดียวกับ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ พรรคพลังประชารัฐ มั่นใจเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิ์ ต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้
ความมั่นใจของพรรค เอามาจากไหน
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ พรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า พรรคประชาธิปไตย์ให้โอกาสคนรุ่นใหม่ที่เรียกว่า นิวเด็ม สามารถทำงานร่วมกันกับรุ่นเก่า ได้แสดงออกจุดยืนที่สะท้อนคนรุ่นใหม่ที่อยากจะให้เห็นการเปลี่ยนแปลง
สามารถทำงานกับคนรุ่นก่อนได้ ในวันที่เราก่อตั้งเราได้แสดงออกจุดยืนในนโยบายหลายเรื่อง มีหลายคนสบประมาทว่าจะเปลี่ยนแปลงได้จริงหรือ
อยากให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าประชาธิปัตย์มีคำตอบ สำหรับคำถามของคนรุ่นใหม่ ทั้งเรื่องประชาธิปไตย ระบบเศรษฐกิจ และเรื่องสวัสดิการ เรามีนโยบายตอบโจทย์กับคนรุ่นใหม่
ส่วน น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า ความมั่นใจมาจากการได้รับโอกาสจากทางพรรคในฐานะ เป็นคนรุ่นใหม่แต่ให้เป็นกรรมการบริหารพรรค ให้ปรับปรุงนโยบายพรรค และลง ส.ส.เขต เป็นรูปธรรมที่ให้โอกาสทีมคนรุ่นใหม่ก้าวเข้ามามีบทบาทการเมือง
นายเตช เตชะพัฒน์สิริ พรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่า ผมมั่นใจในตัวพรรค แต่วันนี้จะมีกี่พรรคที่เป็นของประชาชน อย่างแท้จริง เราเชื่อว่าพรรคเราเป็นพรรคของ ปชช.อย่างแท้จริงที่ให้ความเท่าเทียม และเสมอภาค เราจะผสานวัฒนธรรมจากคนรุ่นเก่าด้วย เราจะร่วมกันสร้างชาติ
นายคริส กล่าวว่า เราเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน และไม่ยอมจำนนต่อสถานการณ์ทางการเมือง อยากผลักดันอะไรสามารถทำได้ผ่านกระบวนการทางการเมืองในพรรค เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจต้องเปิดเสรี ให้โอกาสคนจน ผลักดันจนเกิดเป็นนโยบายพรรค
วิเคราะห์การเมืองในอดีตและจะแก้ไขถูกจุดหรือไม่
น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายปัญหา เพราะหลายปัจจัย แต่ใหญ่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาคือ ผู้มีอำนาจไม่ฟังเสียงประชาชน มีการแทรกแซงอำนาจ พรรคเราฟังเสียงประชาชน
ปัญหาที่ 2 หลายฝ่ายไม่ยอมคิดถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ เช่น ต้องการทำสิ่งนั้นสิ่งนี้เพราะถอยไม่ได้ พรรคจึงมีนโยบายที่ส่งเสริมเศรษฐกิจ ให้คนตัวเล็กได้รับโอกาสได้รับเงินมากขึ้น ถึงเวลาที่เราต้องเอาผลประโยชน์ของปรเทศเป็นหลัก
ความผิดพลาดของพรรค ไม่ใช่เอามาเป็นจุดชนะ แต่ทุกคนต้องถอยหลังกลับมา และให้ประเทศไทย ยังเดินหน้าอีกเยอะ และการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องการเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องทำให้ชีวิตของคนดีขึ้น
ด้านนายพริษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาหนักคือ เศรษกิจและปากท้อง พูดระบอบเสรีประชาธิปไตยยังไม่ถูกถ่ายทอดมาในช่วง 10 ปี แต่มีการคุกคาม และมาจากชุดความคิดที่เชื่อว่ามีคนรู้ดีกว่าประชาชน และยังมีคนชุดนี้อยู่คือ ส.ว.250 คน
ชุดความคิดที่ 2 หลายคนมองว่าประชาธิปไตยมีข้อผิดพลาด ผมต้องการมาสร้างประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ผมมาต่อสู้กับปัญหาภัยคุกคามเรื่องทุจริต และเสรีประชาธิปไตย
นายคริส บอกว่า เป็นไปไม่ได้ถ้าจะก้าวข้ามความขัดแย้งโดยไม่มองอดีต ปัญหาคือเราไม่เคารพหลักการคนเท่ากันในประเทศนี้ เราจะเดินหน้าต่อไปได้ รัฐประหารไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ถ้าเราไม่กลับไปจัดการเราจะก้าวข้ามมันไปไม่ได้
ขณะที่นายเตช มองว่า ปัญหาการเมืองมากกว่า 10 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นคือเผด็จการในรัฐสภา นำมาซึ่งความโกงสู่หายนะของประเทศ พรรคเชื่อว่าการมาของพรรค คือการมาของประชาชน มาเปลี่ยนแปลง มาล้างระบบเผด็จการ เพื่อสร้างประเทศใหม่
จุดยืนเชื่อ 3 อย่าง ต้องคิดเป็น คิดดี คิดถึงบ้านเมือง ถ้าได้คนที่มีลักษณะ 3 อย่างนี้ เราต้องเคารพเสียงและนำพาประเทศไปด้วยกัน
นโยบายสร้างคนรุ่นใหม่สนใจการเมือง-สิทธิชุมชน
น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า ต้องสร้างแพชชั่นขึ้นมา เน้นเทคโนโลยี พรรคมีนโยบายปลอดภัยใกล้ตัว เราใส่ใจความปลอดภัยโดยใช้นวัตกรรม พรรคมีคนรุ่นใหม่หลายรูปแบบที่ตอบโจทย์และมีหลายนโยบาย
ส่วนนายคริส เชื่อมั่นว่าคนรุ่นใหม่ต้องมีโอกาสทำตามฝัน ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ เพราะฉะนั้นการเข้าถึงแหล่งทุนเป็นเรื่องสำคัญ เราจะทำธนาคารท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งทุน
นายเตช บอกว่า จะเน้นพัฒนาการศึกษาเพราะเป็นพื้นฐาน ต้องปฏิรูปสถาบันอุดมศึกษา เน้นวิจัยและเปลี่ยนหลักสูตรไม่ตอบสนองในปัจจุบัน นำอาชีวะขึ้นมาเพราะคือการสร้างอาชีพให้ประชาชน
ส่วน น.ส.ธิดารัตน์ บอกว่า พรรคออกนโยบายไม่ใช่แค่แจกเงิน เราต้องสร้างเถ้าแก่ใหม่ ไม่มีใครอยากเป็นลูกจ้างใน 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลนี้ไม่ได้พยายามดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ และเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะสามารถเก่งมากในระดับโลก
ขณะที่นายพริษฐ์ ระบุว่า ปัญหาเร่งด่วนคือเรื่องเศรษฐกิจ และผนวกกับด้านอื่นๆ ทำอย่างไรให้คนไม่ตกงานจบแล้วมีงานทำ คือยกระดับอาชีวศึกษาเรียนฟรี 5 ปี ถึงปวส.
ทางออกของปัญหา 1.ยกระดับอาชีวะศึกษา จูงใจเรียนฟรี 2.พรรคสนับสนุนการศึกษาตลอดชีวิตด้วยคูปองฝึกทักษะ 3.เข้าถึงแหล่งทุนสำหรับคนจบใหม่ และแก้กฎหมายที่ไม่จำเป็น เพื่อให้คนรุ่นใหม่ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น
ส่วนนายคริส เชื่อมั่นว่า คนรุ่นใหม่ต้องมีโอกาสทำตามฝัน ผ่านการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ เพราะฉะนั้นการเข้าถึงแหล่งทุนเป็นเรื่องสำคัญ เราจะทำธนาคารท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งทุน เพราะทุกวันนี้ไทยมีธนาคารจำกัดไม่เฉพาะกี่แห่งที่ผูกขาด
ถ้าคนในพรรคทุจริต จะจัดการอย่างไร
นายพริษฐ์ กล่าวว่า เพิ่มช่องทางให้ตรวจสอบได้ ถ้ามีข้อกล่าวหาว่าทุจริต รมว.ก็ลาออก เพื่อให้การตรวจสอบโปร่งใส ต้องปรับกฎหมายกม.ให้สอดคล้องความเป็นจริง และต้องมีธรรมาภิบาล
ส่วน น.ส.ธณิกานต์ กล่าวว่า ต้องดูว่าคอรัปชั่นส่วนไหน อะไรผิดไม่ผิด ถ้ามีกฎหมายชัด เชื่อว่าวิธีการจะชัดเจน
คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ในพรรคเดียวกัน
น.ส.ธณิกานต์ ระบุว่า จุดยืนคือการเชื่อมคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่เข้าไว้ด้วยกัน เพราะคนรุ่นเก่าเก๋าและมีประสบการณ์ ส่วนคนรุ่นใหม่ก็จะมีอีกหนึ่งชุดความคิด
ขณะที่ น.ส.ธิดารัตน์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ต้องการกันและกัน แม้เรามีความคิดที่แตกต่างกัน แต่เราก็ต้องเปิดใจคุยกัน คนรุ่นใหม่ในพรรคเพื่อไทยเป็นคนมีความสามารถ เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่เราไปเป็นรัฐบาลแล้วคนจะไม่ต้องการ
ด้านนายเตช เปิดเผยว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทยให้โอกาสทุกคน เราจัดสรรตามเพศสภาพและเรื่องอายุไม่ใช่ปัญหา เราทุกวัยจะไปด้วยกัน
ขณะที่นายคริส พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ถ้าให้สัญญาประชาชน ก็ต้องทำตามสัญญา ไม่สามารถทรยศประชาชน
ส่วนนายพริษฐ์ ระบุว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์อยู่มานานหลายสิบปี เพราะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ตลอดเวลา พร้อมยึดมั่นในหลักการที่ว่าทุกพรรคการเมืองควรมีคนทุกรุ่นและมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน