ดูแลใกล้ชิด "ลูกเสือดาวเผือก" ถูกวางยาสลบรอดถูกส่งไปอินเดีย

วันนี้ (21 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจยึดสัตว์ป่าเป็นลูกเสือดาว จำนวน 2 ตัว  ลิงมาโมเสสแคระ จำนวน 2 ตัว เพียงพอนจำนวน 3 ตัว และไข่นกไม่ทราบชนิด จำนวน 3 ฟอง ซึ่งถูกลักลอบขนโดย MR.RAGHUL VIJAYA BASKAR อายุ 27 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้โดยสารของสายการบินไทยแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 337 ที่เตรียมเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปลายทางเมืองเชนไน สาธารณรัฐอินเดีย โดยกรมอุทยานฯ อยู่ระหว่างขยายผลหาเส้นทางลักลอบว่ามาจากสวนเสือของไทยหรือไม่ 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

"สัตวแพทย์" ชี้เสือดาวยังอาการน่าเป็นห่วง

ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า หลังจากรับมอบลูกเสือดาวเผือกตัวผู้ และเสือดาวตัวเมียมาดูแล ขณะนี้อาการยังน่าเป็นห่วงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นลูกเสือที่คาดว่าอายุไม่เกิน 2 สัปดาห์ยังไม่ลืมตา และจากพฤติกรรมที่ถูกลักลอบขนออกไป เสือและสัตว์ถูกจับใส่กล่อง และยัดในกระเป๋าเดินทางและน่าจะถูกวางยาสลบ หรือมอมยาเพื่อไม่ให้เสือ และสัตว์ป่าส่งเสียงร้องได้

อาการเสือดาวเผือกที่มามีลักษณะของเหงือกเขียวคล้ำ น่าจะขาดอากาศจากช่วงที่ถูกจับยัดกระเป๋า และขาดนมมาหลายชั่วโมง และคาดว่าจะมีอายุไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพราะยังไม่ลืมตา   

นายสัตวแพทย์ภัทรพล กล่าวอีกว่า โดยทีมสัตวแพทย์ช่วยเหลือเบื้องต้นด้วยการให้ออกซิเจน พาเข้าตู้อบ ป้อนนม และพาเดิน พบว่าเริ่มส่งเสียงร้อง แต่ยังเดินทรงตัวไม่ได้ คาดว่าน่าจะมาจากฤทธิ์ยา ทั้งนี้น่าเป็นห่วงว่าสัตว์ที่ถูกมอมยา และขาดอากาศ จะมีปัญหาเรื่องของสมองระบบประสาท จะมีปัญหาง่าย จึงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด แต่ทีมสัตวแพทย์จะพยายามรักษาให้สัตว์อาการดีขึ้น 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

 

ลูกเสืออาการค่อนข้างอ่อนแอ น่าเป็นห่วงยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด สัตว์บอบบางมาก และถ้ารอดออกไปถึงอินเดีย ก็จะบอบช้ำจากวิธีการลักลอบทั้งถูกจับยัดกล่อง ใส่กระเป๋าเดินทางและวางยา ถ้าถูกส่งไปได้ ก็ขึ้นกับดวงของสัตว์ป่าอย่างเดียว 

สำหรับสัตว์ป่าของกลางดังกล่าว ลูกเสือทั้ง 2 ตัวจะดูแลที่คลินิกสัตว์ป่า กรมอุทยานฯ จนกว่าอาการจะดีขึ้น ในส่วนของสัตว์ชนิดอื่นจะส่งไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางพระ จ.ชลบุรี อย่างไรก็ตาม การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นในระหว่างที่ไทยกำลังเป็นเจ้าภาพการประชุม การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เรื่องการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย วันที่ 21- 22 มี.ค.นี้ ที่จ.เชียงใหม่ จึงถือเป็นภาพลักษณ์ของการป้องกันปราบปรามขบวนการค้าสัตว์ข้ามชาติ

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

 

สำหรับชายชาวอินเดีย ถูกแจ้งข้อหาการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 ฐานครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2557 มาตรา 23 ภายใต้บังคับมาตรา 24 ฐานพยายามส่งออกสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบมาตรา 47 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ความผิดตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ฐานพยายามส่งสัตว์ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

 

ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช

 

ความผิดตาม พรบ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ฐานพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านด่านศุลกากร ตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 166 และ 252 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง มอบหมายให้นายณรงค์ฤทธิ์ ศุขปราการ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้กล่าวโทษต่อ ร.ต.อ.ไพศาล วีระกิจพานิช พงส. สภ. ทสภ. ตาม ปจว.ข้อ 1 เวลา 02.10 น.วันที่ 21 มีนาคม 2562 คดีอาญาที่ 119/62 ของกลางที่ 61/62 เพื่อให้ดำเนินคดีต่อไป 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กยอด “เสือดาว” ในป่าไทย เหลือแค่ 130 ตัว