สงกรานต์ 62 : "ร้อนมาก - รถติด - ฝุ่นพิษ" ทำคนอยากอยู่บ้านแม้หยุดยาว

สังคม
10 เม.ย. 62
11:55
1,931
Logo Thai PBS
สงกรานต์ 62 : "ร้อนมาก - รถติด - ฝุ่นพิษ" ทำคนอยากอยู่บ้านแม้หยุดยาว
หอการค้าโพล เผย สงกรานต์ 2562 คนไทยส่วนใหญ่อยากอยู่บ้านและเที่ยวใกล้บ้าน เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด ปัญหาการจราจรติดขัด และปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นนักการเมืองที่อยากรดน้ำดำหัวมากที่สุด

วันนี้ (10 เม.ย.2562) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ทั่วประเทศเตรียมท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น เพราะสงกรานต์ปีนี้มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ซึ่งมีกิจกรรมที่จะทำในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากสุด คือ ซื้อของ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และเยี่ยมญาติ สังสรรค์ จัดเลี้ยง เล่นน้ำสงกรานต์ ทำอาหารทานที่บ้าน ซึ่งมีแผนการใช้จ่ายทั้งบริโภคและท่องเที่ยว ทำบุญเป็นส่วนมาก

ขณะที่สงกรานต์ปีนี้แม้จะเน้นท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ แต่ส่วนมากยังต้องการอยู่บ้านเนื่องจากอากาศร้อนมาก และหากจะไปท่องเที่ยวก็กลัวปัญหาการจราจร จึงจะเน้นท่องเที่ยวใกล้บ้านเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังมองว่าจากปัญหาค่าครองชีพแพงจึงไม่ค่อยกล้าจับจ่ายใช้สอยมากนักส่งผลให้เงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ 135,837.56 ล้านบาท เติบโตเพียงร้อยละ 2.76 เมื่อเทียบกับช่วงสงกรานต์ปี 2561 ที่มีอัตราเติบโตถึงร้อยละ 3.50 หรือมีเม็ดเงิน 132,126.87 ล้านบาท ดังนั้น ในช่วงสงกรานต์ปีนี้คนยังไม่มั่นใจเกิดจากปัญหาความไม่แน่นอนการเมืองว่าจะมีรัฐบาลใหม่เกิดขึ้นและชัดเจนเมื่อไหร่


อีกทั้งจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในบางพื้นที่เป็นตัวกระตุ้นที่ไม่อยากไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่มีปัญหาอยู่ ส่งผลให้ประชาชนไม่กล้าจะจับจ่ายใช้สอยมากนัก โดยเป็นการใช้แบบระมัดระวัง

คนไทยส่วนใหญ่อยากรดน้ำดำหัว "พล.อ. ประยุทธ์" มากที่สุด

สำหรับบุคคลสำคัญ นักการเมืองที่อยากรดน้ำดำหัว อันดับ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายทักษิณ ชินวัตร ส่วนดาราชาย ได้แก่ นายณเดชน์ คูกิมิยะ นายมาริโอ้ เมาเร่อ และบอย ปกรณ์ ดาราหญิง ญาญ่า อุรัสยา เบลล่า ราณี แคมเบล และอั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ โดยพรที่ต้องการ คือ ขอให้เศรษฐกิจก้าวหน้า เจริญรุ่งเรืองมากขึ้น คนไทยรักและสามัคคีกันและความหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่ คือ ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ ปัญหาค่าครองชีพ ดูแลสินค้าราคาแพงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


ทั้งนี้ ทางศูนย์ยังคิดว่าแม้รัฐบาลใหม่เพื่อรวมคะแนนเสียงออกมาจะเกินครึ่ง ไม่มีเหตุการณ์ประท้วงตามมาโดยปล่อยให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาวางแนวทางของประเทศและมีความสงบ รวมทั้งสงครามการค้าสหรัฐและจีนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือเหตุการณ์ทางยุโรปไม่รุนแรง เชื่อว่าน่าจะส่งผลให้อัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4

ด้านบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.นี้ น่าจะสร้างรายได้สู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องเป็นมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 แบ่งเป็นไทยเที่ยวไทย 12,200 ล้านบาท และต่างชาติเที่ยวไทย 15,800 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองหลายจังหวัดทางภาคเหนือที่อาจทำให้มีการหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และอาจส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่หากสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เร็วก็จะเป็นผลดีไม่เพียงต่อประเด็นสุขภาพ แต่รวมถึงตลาดการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศอีกด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง