"ศรีสุวรรณ" จ่อยื่น กกต.ชี้พิรุธคำแถลง "ปิยบุตร" แก้ต่างปมหุ้นสื่อ "ธนาธร"

การเมือง
23 เม.ย. 62
09:09
2,156
Logo Thai PBS
"ศรีสุวรรณ" จ่อยื่น กกต.ชี้พิรุธคำแถลง "ปิยบุตร" แก้ต่างปมหุ้นสื่อ "ธนาธร"
นายศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ กกต.ในวันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 13.00 น. เพื่อให้ใช้เป็นข้อมูลในการชี้พิรุธคำแถลงของเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งออกมาแก้ต่างให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เกี่ยวกับปัญหาของการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด

วันนี้ (23 เม.ย.2562) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ เวลา 13.00 น. สมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ กกต. เพื่อให้เป็นข้อมูลในการพิจารณาวินิจฉัยของที่ประชุมคณะกรรมการฯ ในการชี้พิรุธคำแถลงของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ออกมาแถลงแก้ต่างให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เกี่ยวกับปัญหาของการโอนหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด ซึ่งในคำแถลงของนายปิยบุตรแทนนายธนาธรนั้น สิ่งที่ไม่พูดถึงเลย คือหลักฐานการโอนเงินค่าซื้อขายหุ้นเข้าบัญชี คือไม่มีสเตตเมนท์ธนาคาร เพราะหลักฐานอื่นๆ สามารถทำปลอมได้ทั้งหมด

นอกจากนั้น การโอนไปโอนมาระหว่างภรรยาของนายธนาธรให้กับนางสมพร แม่ของธนาธร และจากนางสมพรไปให้หลานอีก 2 คนนั้น ไม่ปรากฏว่ามีเช็คหรือมีหลักฐานตราสาร รวมทั้งสเตตเมนท์ของธนาคารมาแสดงให้ดูให้ครบทั้งหมดแต่อย่างใดหลักฐานอีกประการที่ไม่มีการนำมาโชว์ คือหลักฐานการเป็นหนี้ที่นายปิยบุตรแถลงว่าเป็นหนี้สูญ 10 ล้านบาทนั้น เป็นหนี้จริงหรือไม่ มีเอกสารทางบัญชี กำไร-ขาดทุนโดยผู้ตรวจสอบบัญชีมารับรองหรือไม่ มีการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วหรือไม่ เพื่อให้เป็นหนี้สูญโดยชอบด้วยกฎหมาย

สำหรับประเด็นที่นายปิยบุตรอ้างว่านางสมพรแม่ของนายธนาธรโอนหุ้นให้หลาน 2 คน เพราะบริษัทยังมีหนี้อยู่ 10 ล้านบาท ต้องการทวงหนี้ และอยากให้หลาน 2 คนเรียนรู้นั้น เป็นเรื่องที่เลื่อนลอย ไม่ใช่การปฏิบัติทางธุรกิจตามปกติทั่วไป เพราะการทวงหนี้เพียงให้พนักงานบริษัทธรรมดาๆ ไปทวง ทำหนังสือเรียกให้ชำระหนี้ หรือให้ทนายความยื่นโนติสก็สามารถทำได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ถือหุ้นเป็นคนทวง ข้ออ้างของนายปิยบุตรเช่นนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล หากหลาน 2 คนอยากเรียนรู้การทวงหนี้ ก็แค่ทำหนังสือมอบอำนาจจากบริษัทรับงานทวงหนี้ไปทำได้เลย

ส่วนอีกประการหนึ่ง นายปิยบุตรอ้างว่า เมื่อโอนหุ้นให้หลาน 2 คนไปแล้ว ไปทวงหนี้พบว่าหนี้เป็น NPL ไม่สามารถชำระหนี้ได้ หลานจึงโอนหุ้นกลับให้นางสมพรเพื่อปิดบริษัท นี่ยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลทางธุรกิจอีกเช่นกัน เพราะบรรดาผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่ก็สามารถปิดบริษัทเองได้ และจะสะดวกกว่าเพราะแม่ของธนาธรอายุมากแล้ว และประเด็นทางกฎหมายข้างต้น คือการจะแทงหนี้สูญ หากเป็นหนี้ก้อนโตจะจำหน่ายหนี้สูญให้ถูกกฎหมายและมาตรฐานทางบัญชี จะต้องฟ้องดำเนินคดีตามมาตรา 65 ทวิ (9) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 186 (พ.ศ.2534) มิใช่ว่าพอลูกหนี้ผิดชำระหนี้ก็จำหน่ายเป็นหนี้สูญได้ เพราะสรรพากรไม่มีทางเชื่อแน่ หรืออาจเข้าข่ายความผิดทางอาญาฐานฟอกเงินได้

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


เลือกตั้ง 2562 : "ธนาธร" ส่งทนายยื่นแจง กกต.โอนหุ้นสื่อก่อนสมัคร ส.ส. 

เคลียร์ชัด! "ปิยบุตร" แจงปม "ธนาธร" ถือหุ้นสื่อ วี-ลัค มีเดีย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง