ปส.เปิดผลตรวจ "บัตรพลังงาน" พบค่ารังสีเกิน 350 เท่า

สังคม
17 มิ.ย. 62
14:39
4,831
Logo Thai PBS
ปส.เปิดผลตรวจ "บัตรพลังงาน" พบค่ารังสีเกิน 350 เท่า
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เผยผลตรวจบัตรพลังงาน พบระดับรังสีสูงกว่าค่าขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไป 350 เท่า หากนำผสมน้ำดื่มมีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ย้ำประชาชนไม่ควรมีไว้ครอบครอง อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย

จากกรณีนายวีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส่งสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ตรวจบัตรพลังงานด้วยเทคนิคทันสมัย หลังมีการซื้อขายบัตรบัตรพลังงาน อ้างสรรพคุณในการรักษาโรค โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ตามร่างกาย โดยใช้วิธีการนำบัตรไปแกว่งในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม หรือนำแก้วน้ำวางทับบนบัตรแล้วดื่ม รวมทั้งมีการนำบัตรสัมผัสกับร่างกายในจุดที่ปวดเมื่อย

 

 

วันนี้ (17 มิ.ย.2562) สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เผยแพร่ผลการวิเคราะห์ ดังนี้

  • ไม่พบการเปรอะเปื้อนทางรังสีที่วัสดุห่อหุ้มและพื้นผิวของแผ่นการ์ด สำหรับการ์ดตัวอย่างที่สมบูรณ์ไม่แตกหัก
  • การวัดธาตุองค์ประกอบของแผ่นการ์ดด้วยเทคนิคการเรืองรังสีเอกซ์ (X-ray Fluorescence: XRF) พบธาตุยูเรเนียมและทอเรียม
  • การวิเคราะห์ไอโซโทปรังสีในแผ่นการ์ดด้วยระบบวิเคราะห์แกมมาสเปคโตรสโคปี (Gamma Spectroscopy) พบนิวไคลด์กัมมันตรังสีของอนุกรมทอเรียมและยูเรเนียม
  • การวัดค่าระดับรังสี (Dose rate) เทียบกับค่ารังสีพื้นหลัง พบว่าระดับรังสีของแผ่นการ์ดสูงกว่าระดับรังสีพื้นหลัง ประมาณ 200 เท่าที่ระยะห่างจากแผ่นการ์ด 1 เซนติเมตร ซึ่งระดับรังสีที่วัดได้อยู่ที่ประมาณ 40 ไมโครซีเวิร์ตต่อชั่วโมง หรือเทียบเป็น 350 เท่าของขีดจำกัดการได้รับปริมาณรังสีสำหรับประชาชนทั่วไปในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงความปลอดภัยทางรังสี พ.ศ. 2561
  • การวัดค่าการกระจายตัวของสารกัมมันตรังสีในแผ่นการ์ด ด้วยเทคนิค Imaging plate พบว่าสารกัมมันตรังสีกระจายอยู่ทั่วทั้งแผ่นการ์ดอย่างสม่ำเสมอ
  • การถ่ายภาพเพื่อดูลักษณะภายในของแผ่นการ์ดด้วยรังสีเอกซ์ ไม่พบชิ้นส่วนอื่นใดประกอบอยู่ภายในแผ่นการ์ด

 

 

หากยูเรเนียมและทอเรียมเข้าสู่ร่างกายจะก่อให้เกิดการแผ่รังสีต่ออวัยวะภายในและเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ทั้งนี้ ปส. เตรียมการวิเคราะห์การปนเปื้อนของวัสดุกัมมันตรังสีเมื่อนำแผ่นการ์ดแช่ในน้ำในลำดับต่อไป และเมื่อมีข้อมูลครบถ้วน ปส. อาจดำเนินคดีกับบริษัทผู้จำหน่ายต่อไป

 

 

ทั้งนี้ แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการครอบครองและใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุนิวเคลียร์ หรือวัตถุอันตรายดังกล่าว เพราะนอกจากจะไม่เกิดประโยชน์หรือความคุ้มค่าแล้ว อาจได้รับรังสีโดยไม่จำเป็น ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าระดับรังสีที่มีอยู่ตามธรรมชาติทั่วไป หากประชาชนผู้ใช้สินค้ามีข้อกังวลใจประเด็นที่ไม่ทราบว่าจะนำการ์ดดังกล่าวไปกำจัดที่ไหน สามารถประสานไปยังสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เพื่อจัดการต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ปส. โทรศัพท์ 0 2596 7600 ต่อ 1123-4

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบ "บัตรพลังงาน" อ้างรักษาโรคได้ 

ผิดหวัง "บัตรพลังงาน" รักษาโรคไม่ได้ ชวนกันทิ้ง-ทำลายบัตร 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง