วันนี้ (24 มิ.ย.62) ช่วงเช้าที่ผ่านมา เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ รวมตัวกันที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก หลังทราบว่า กรมการขนส่งทางบกเตรียมพิจารณาให้แกร็บคาร์ให้บริการประชาชนได้อย่างถูกกฎหมาย
นายวิฑูรย์ แนวพาณิชย์ ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯระบุว่า ปัจจุบันมีการจดทะเบียนรถแท็กซี่มากกว่า 40,000 คัน และหากให้มีการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการอีก จะยิ่งทำให้มีจำนวนรถมากและแย่งผู้โดยสาร ที่ผ่านมาได้พยายามเรียกร้องกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาตลอด 4 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และกรมการขนส่งทางบกเตรียมจะเดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจทำให้รถแท็กซี่ที่มีอยู่ต้องขาดรายได้
นายธวัชชัย บางบา หนึ่งในคนขับแท็กซี่ กล่าวว่า หากจะดำเนินการให้แกร็บคาร์ถูกต้องควรจะมีระเบียบข้อบังคับออกมาให้ชัดเจนโดยเฉพาะการแต่งกาย การให้บริการ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังเห็นว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกทำแอปพลิเคชัน "แท็กซี่โอเค" แต่ยังใช้งานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และบังคับให้รถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่ทุกคันต้องติดตั้งเครื่องซึ่งมีค่าใช้จ่ายกว่า 30,000 บาท รวมถึงต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี ปีละ 3,600 บาท แต่ไม่มีผู้โดยสารรู้จักและเข้ามาใช้บริการซึ่งหากเทียบกับแกร็บคาร์แล้วไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือ และใบขับขี่สาธารณะก็สมัครได้แล้ว
ขณะที่นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมการขนส่งทางบกยังอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็จะต้องพิจารณาตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นจากหลายฝ่ายก่อน
สำหรับเครือข่ายแท็กซี่ หลังจากยื่นหนังสือและร่วมประชุมกับรองอธิบดีกรมขนส่งทางบกแล้ว จะไปยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้ทบทวนนโยบายการผลักดันแกร็บคาร์ถูกกฎหมาย
นอกจากนี้ สมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย ยังได้ยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมการขนส่งทางบก เรื่องขอทราบแนวทางนโยบายในการแก้ไขปัญหากรณีมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้แอฟพลิเคชันที่ผิดกฎหมายให้ถูกกฎหมายว่าจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร รวมถึงจะส่งผลกระทบต่อผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทยได้ให้ความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกและนโยบายการจัดระเบียบมาโดยตลอด