วันนี้ (19 ส.ค.2562) นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลกว่า 300,000 ล้านบาท เป็นมาตรการที่จะหนุนให้เศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือขยายตัวได้ตามเป้าหมายแต่รัฐบาลควรทำในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น พร้อมคาดหวังว่า มาตรการที่รัฐออกมาจะช่วยเติมเงินให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร จะถูกนำไปใช้ และเกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจฐานราก เช่น ผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ อย่างร้านค้าในชุมชน เอสเอ็มอี เพราะหากลงไปสู่กลุ่มนี้ ก็จะช่วยทำให้ เงินจำนวนดังกล่าวหมุนกลับมาสู่ระบบเศรษฐกิจเร็วขึ้น
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เติมเงินในกระเป๋า ควรกระชับ ควรใช้ระยะสั้น ช่วยเศรษฐกิจช่วงชะลอตัวได้ แต่รัฐต้องมีมาตรการระยะกลางเเละยาวออกมาด้วย
นายสุพันธุ์ ระบุว่า มาตรการระยะกลางและยาวที่รัฐบาลต้องเตรียมวางแผนไว้คือการบริหารจัดการน้ำให้มีเพียงพอ เเละสมดุลต่อการนำไปใช้ในภาคการเกษตร จัดโซนนิ่งการทำเกษตรให้มีปริมาณที่เหมาะสมเเละควรมีเเนวทางพัฒนานวัตกรรม ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี มีต้นทุนที่ถูกลง ซึ่งเอกชนจะเดินหน้าผลักดันกองทุนนวัตกรรม ซึ่งเป็นกองทุนที่ภาคเอกชนจะร่วมลงขันตั้งกองทุนกันเอง 1,000 ล้านบาท
แต่จะขอให้รัฐลดหย่อนภาษีให้กับเอกชนที่ร่วมตั้งกองทุน 3 เท่า ซึ่งหากรัฐบาลให้ลดหย่อนได้ก็มั้นใจว่า กองทุนนวัตกรรมจะเป็นกลไกที่จะช่วยผู้ประกอบการไทยให้เเข่งขันและขยายกิจการได้มากขึ้น