เมื่อวานนี้ (10 ก.ย. 2562) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศปลด "จอห์น โบลตัน" ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ออกจากตำแหน่งกะทันหัน ซึ่งโบลตันถือเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังนโยบายเชิงรุกของสหรัฐอเมริกาในอดีต รวมทั้งการส่งทหารบุกอิรักและการคงท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่านในปัจจุบัน
โดนัลด์ ทรัมป์
ผู้นำสหรัฐอเมริกาทวีตข้อความว่า ได้แจ้งโบลตันทราบแล้วว่าไม่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบขาวอีกต่อไป เนื่องจากทั้งตัวทรัมป์และคนอื่นๆ ในรัฐบาลมีความเห็นแย้งกับโบลตันในหลายประเด็น ดังนั้นจึงขอให้โบลตันลาออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงคนใหม่ภายในสัปดาห์หน้า ขณะที่โบลตันได้ยื่นหนังสือลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนโบลตันตอบโต้ว่า เขาเสนอตัวว่าจะลาออกจากตำแหน่งเอง ซึ่งผู้นำสหรัฐอเมริกาผัดผ่อนและระบุว่าให้คุยเรื่องนี้กันใหม่ในวันรุ่งขึ้น
จอห์น โบลตัน
หลายฝ่ายมองว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำให้เจรจาความขัดแย้งต่างๆ กับทั้งเกาหลีเหนือและกลุ่มตอลีบานในอัฟกานิสถานราบรื่นมากขึ้น เนื่องจากโบลตันมีแนวคิดที่เด็ดขาดและมักจะผลักดันให้ทรัมป์ขีดเส้นอย่างชัดเจนและไม่ยอมโอนอ่อนในการเจรจา
ขณะที่ ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไม่แปลกใจกับการสั่งปลดโบลตันครั้งนี้ และมองว่าประธานาธิบดีมีสิทธิเลือกทีมงานที่มีทรรศนะตรงกัน พึ่งพาและไว้ใจได้ ซึ่งตัวเขาเองมีความเห็นต่างด้านนโยบายการต่างประเทศกับโบลตันหลายครั้ง โดยเฉพาะกรณีอิหร่าน