วันนี้ (20 พ.ย.2562) หลังคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีกำหนดนัดประชุมเวลา 10.00 น. เพื่อแถลงด้วยวาจาและลงมติในคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องขอให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ ส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) จากกรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ขณะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่
เมื่อเวลา 14.00 น. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้นายธนาธร สิ้นสุดสภาพ ส.ส. เนื่องจากยังเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทวี-ลัคฯ ถึงแม้ว่าจะปิดบริษัทไปตั้งแต่ 6 ก.พ.2562 แต่ยังมีพยานหลักฐานที่ได้ไต่สวน พบ ปกติ บ.วี-ลัคฯ ส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5) เป็นปกติทุกปี แต่การโอนหุ้นในวันที่ 8 ม.ค. กลับส่งในวันที่ 21 มี.ค. ถือว่าผิดปกติ ทั้งที่การโอนหุ้นสำคัญต่อการสมัครเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนการเรียกเก็บเงินเช็คค่าหุ้น บริษัทวี-ลัคฯ ล่าช้า 128 วัน เป็นเรื่องผิดปกติจากกฎหมายเช็ค ที่ต้องนำเช็คไปยื่นต่อธนาคารภายใน 1 เดือน ข้ออ้างการไม่นำเช็คไปขึ้นตามการปกติ จึงไม่มีน้ำหนักให้เชื่อถือ เพราะไม่จำเป็นต้องดำเนินการด้วยตัวเอง อาจมอบอำนาจผู้อื่นได้ ไม่ใช่เฉพาะนางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ
นอกจากนี้ การที่ผู้ถูกร้องกล่าวอ้างว่า ได้โอนหุ้นวันที่ 8 ม.ค.62 โดยอ้างพยานบุคคลที่ใกล้ชิด และเอกสารต่างทั้งหมด ล้วนเป็นของบริษัทฯ ที่จัดทำและเก็บไว้เอง
ศาลวินิจฉัยว่า นายธนาธรเดินทางจาก จ.บุรีรัมย์ มากรุงเทพฯ ในวันที่ 8 ม.ค.62 แต่ไม่ได้หมายความว่ามีการโอนหุ้นกันจริง จึงต้องตรวจสอบหลักฐานอื่น ๆ ประกอบด้วย แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่านายธนาธรยังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในวันที่ลงสมัครเลือกตั้ง จึงเป็นลักษณะต้องห้าม ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส. ต้องสิ้นสุดลง
สมาชิกภาพ ส.ส.ธนาธร สิ้นสุดลง นับแต่วันที่ 23 พ.ค.62 แต่ให้ตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อเว้นว่างตั้งแต่วันนี้
ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 82 วรรคสี่ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัคร รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)