3 กระทรวงหารือกำหนดท่าทีก่อนร่วมประชุมมรดกโลกสมัยสามัญ

สังคม
22 มิ.ย. 58
09:44
108
Logo Thai PBS
3 กระทรวงหารือกำหนดท่าทีก่อนร่วมประชุมมรดกโลกสมัยสามัญ

รองนายกฯหารือร่วมกับ 2 กระทรวงเพื่อกำหนดท่าทีของคณะผู้แทนไทยที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 39 ที่กรุงบอนน์ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. - 8 ก.ค.นี้

วันนี้ (22 มิ.ย.2558) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่า ด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกของไทยเชิญตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดท่าทีของคณะผู้แทนไทยที่จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 39 ที่กรุงบอนน์ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. - 8 ก.ค.นี้

พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ มี 3 วาระสำคัญที่ต้องหยิบยกขึ้นมาหารือได้แก่ กรณีมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่ถูกคณะกรรมการมรดกโลกให้แก้ไขปัญหาภัยคุกคามเป็นสาเหตุให้ไทยอาจถูกขึ้นบัญชีมรดกโลกที่ตกอยู่ในภาวะอันตราย ตั้งแต่คราวการประชุมปี2557 โดยตอนนี้ได้รับการยืนยันว่า ทางคณะกรรมการมรดกโลกเล็งเห็นความพยายามของไทยในการแก้ไขปัญหา ในทุก ๆ ด้าน จึงยังไม่ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกในภาวะอันตราย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาค่อนข้างพอใจกับผลการดำเนินงานในช่วง 1 ปีที่ของรัฐบาลไทยที่พยายามแก้ไขภัยคุกคามที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องการเสนอขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจาน ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 แต่ยังมีปัญหาการจัดการและดูแลกลุ่มชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่ซึ่งเรื่องนี้ต้องชี้แจงต่อผู้แทนสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN)  ผู้แทนศูนย์มรดกโลก และภาคีสมาชิกเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของปัญหาการจัดการและดูแลกลุ่มชาวเขาในพื้นที่ ที่ยังมีการอพยพเคลื่อนย้ายข้ามแนวชายแดน

รวมถึงกรณีนครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาที่คณะกรรมการมีมรดกโลก ขอให้ไทยดำเนินการใน 6 ประเด็นเกี่ยวกับการฟื้นฟูโบราณสถานและระงับการก่อสร้างที่อาจกระทบต่อคุณค่าความโดดเด่นระดับสากลแหล่งมรดกโลกพระนครศรีอยุธยาหลังจากมีการบูรณะหลังน้ำท่วมโดยขาดความชำนาญของช่างฝีมือในการอนุรักษ์ ทั้งนี้ให้ไทยรายงานสถานภาพต่อศูนย์มรดกโลกภายในวันที่ 1 ธ.ค.2559 เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 41 ในปี 2560


ข่าวที่เกี่ยวข้อง