ไฟเขียวกักตัวคนที่มาจากปท.เมอร์สระบาด สธ.ยันไทยติดคนเดียว-เกาหลีไม่มีตายเพิ่ม
กระทรวงสาธารณสุขเตรียมออกประกาศให้อำนาจเจ้าหน้าที่สาธารณสุข บังคับกักตัวทุกคนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคเมอร์ส และห้ามเข้าไปในที่สาธารณะได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ หลังพบว่ามีชาวต่างชาติบางคนไม่ยอมให้มีการกักตัวสังเกตอาการ ขณะที่อาการชาวโอมานที่บำราศนราดูรดีขึ้น แพทย์ระบุหากไม่พบเชื้อคาดกลับบ้านได้เร็วๆนี้ ด้านจ.ชัยภูมิวอนร.ร.ที่มีนักเรียนวัย 3 ขวบ ปิดชั้นเรียนเพื่อป้องกัน ส่วนอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศเฝ้าระวังเต็มที่ สธ.ยืนยันทั่วประเทศยังมีผู้ติดเชื้อเพียงรายเดียว และที่เกาหลีใต้ไม่มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่ม
วันนี้ (24 มิ.ย.2558) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมออกประกาศฉบับใหม่ ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถบังคับกักตัว ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคเมอร์ส เพื่อสอบสวนโรคและไม่ให้ประชาชนเหล่านี้เดินทางไปในที่สาธารณะ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ ซึ่งสาเหตุที่ต้องออกประกาศฉบับนี้ เนื่องจากมีชาวต่างชาติบางคนที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาด เข้ามารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชน ไม่ยอมให้มีการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ตามคำแนะนำของทีมแพทย์
ด้านพญ.จริยา แสงสัจจา ผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร กล่าวถึงอาการผู้ป่วยชาวโอมาน วัย 75 ปี ที่รักษาตัวที่ห้องแยกโรคในสถาบันบำราศนราดูร ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ไม่มีอาการไอ ไม่หอบ สามารถลุกขึ้นนั่งได้แล้ว และรับประทานอาหารได้เอง ส่วนอาการญาติใกล้ชิด 3 คน เป็นปกติ แต่ต้องกักตัวจนถึงวันที่ 2 ก.ค.2558 ซึ่งครบ 14 วัน ตามระยะฟักตัวของโรค แล้วจะเก็บสารคัดหลั่งเพื่อทำการตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง หากผลยืนยันเป็นลบ อาจพิจารณาให้สามารถกลับบ้านได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลชัยภูมิเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสเมอร์สเพิ่มเติม พร้อมทำความสะอาดอาคารและอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ หลังพบผู้ป่วยต้องสงสัยแม่และเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ในพื้นที่ อ.แก้งคร้อ ที่กลับจากประเทศเกาหลีใต้ และแม้ว่าผลตรวจห้องปฏิบัติการจะเป็นลบ แต่ยังเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจัดเตรียมอาสาสมัครพยาบาลจำนวน 8 คน เพื่อดูแลผู้ป่วยด้วย นอกจากนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้ประสานให้ผู้อำนวยการโรงเรียนของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ สั่งปิดเรียนชั้นปฐมวัย รวมถึงครอบครัว เพื่อเฝ้าระวังการแพร่กระจายเชื้อ
นายอภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่เมื่อคืนนี้มีผู้ต้องสงสัยส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งมาตรวจที่ห้องปฏิบัติการทั้งหมด 21 คน ซึ่งผลตรวจทั้งหมดเป็นลบ ทำให้จนถึงขณะนี้ประเทศไทย ยืนยันมีผู้ป่วยโรคเมอร์สเพียง 1 คน และไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ต้องตรวจซ้ำเพื่อยืนยันผล
ขณะที่ศูนย์แพทย์ชุมชนโรงพยาบาลกระบี่ ตั้งจุดแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการ ไอ จาม และมีน้ำมูก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์ส นอกจากนี้ได้ให้คำแนะนำแก่ชาวไทยมุสลิมกว่า 1,000 คน ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ในเดือนก.ค.นี้ ให้ตรวจสุขภาพก่อนเดินทางไปประกอบพิธี
ส่วนโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งใน จ.ตรัง เตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์ส โดยส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ แจ้งข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามอาการหลังจากเดินทางกลับจากการแสวงบุญ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย ตั้งศูนย์คัดกรองผู้ป่วยและติดป้ายแนะนำวิธีการป้องกันโรคเมอร์ส โดย นพ.สุรินทร์ สุมนาพันธุ์ นายแพทย์สาธารณสุขเชียงราย กล่าวว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งของรัฐ และเอกชนจัดศูนย์คัดกรองผู้ป่วยโรคเมอร์ส เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยคัดแยกผู้ป่วยต้องสงสัย โดยเฉพาะชาวต่างชาติ หรือคนไทยที่เคยเดินทางกลับมาจากประเทศระบาดของโรค เช่นเดียวกับอำเภอตามแนวชายแดน ก็จะคัดกรองผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงด้วย
ขณะที่วันนี้ทางการเกาหลีใต้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สอีก 4 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อ 179 คน และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสเมอร์สติดต่อกัน 3 วันแล้ว โดยผู้ติดเชื้อ 2 คนแรก เป็นผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลที่เคยอยู่ในชั้นเดียวกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ส่วนอีก 1 คน เป็นพยาบาลที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลซัมซุง เมดิคัล เซ็นเตอร์ ในกรุงโซล และคนสุดท้ายเป็นญาติของผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเปียงแตค ทางตอนใต้ของกรุงโซล ส่วนยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 27 คน ขณะที่มีประชาชนที่ต้องถูกกักโรคอยู่ประมาณ 3,100 คน
