ฝุ่นเหนือเกินมาตรฐาน 17 พื้นที่หนักสุด "ตาก" 4 วันติด

สิ่งแวดล้อม
25 ม.ค. 64
10:51
1,797
Logo Thai PBS
ฝุ่นเหนือเกินมาตรฐาน 17 พื้นที่หนักสุด "ตาก" 4 วันติด
กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานฝุ่น PM 2.5 ภาคเหนือเกินมาตรฐาน 17 พื้นที่สูงสุดที่ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 73 มคก.ต่อลบ.ม. พบค่าฝุ่นเกิน 4 วันติด ยังเฝ้าระวัง 25 จังหวัดเสี่ยง ขณะที่กทม.-ปริมณฑล สถานการณ์ดีขึ้น แต่ยังต้องเตรียมรับมือระลอกใหม่ 27-28 ม.ค.นี้

วันนี้ (25 ม.ค.2564) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) โดย Air4thai รายงานคุณภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.00 น.พบฝุ่น PM2.5ตรวจพบค่าระหว่าง 32-73 มคก.ต่อลบ.ม.โดยพบเกินมาตรฐานรวม 17 พื้นที่ดังนี้ 

  • ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
  • ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
  • ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
  • ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
  • ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
  • ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน
  • ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่
  • ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา
  • ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
  • ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 73 มคก.ต่อลบ.ม.
  • ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก
  • ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
  • ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี
  • ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย
  • ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์
  • ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
  • ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์

นอกจากนี้ฝุ่น PM10 ตรวจพบค่าระหว่าง 45-127 มคก.ต่อลบ.ม.มาตรฐานที่บริเวณต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ทั้งนี้จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก พบว่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานติดต่อกัน 4 วันแล้ว ทั้งนี้มีคำแนะนำประชาชนควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ส่วนกลุ่มเสี่ยงประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์

 

 

เฝ้าระวัง 25 จังหวัด PM2.5 งดการเผาในที่โล่ง

น.ส.ศิวพร รังสิยานนท์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ว่า วันนี้สถานการณ์ PM2.5 เริ่มคลี่คลาย เนื่องจากรัฐบาลสั่งการให้ทุกหน่วยงานลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามและควบคุมแหล่งกำเนิด PM2.5 โดยเฉพาะการเผาในที่โล่ง และการจราจร และปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยาที่เอื้อต่อการกระจายของฝุ่น

ส่วนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพบเกินค่ามาตรฐาน 25 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี ปราจีนบุรี หนองคาย เลย นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ อุบลราชธานี และ นครราชสีมา

กทม.เตรียมเจอฝุ่นอีกรอบ 27-28 ม.ค.นี้ 

ส่วนกทม.และปริมณฑล คาดการณ์ว่าวันนี้ถึง 25-26 ม.ค.PM2.5 กทม.และปริมณฑล ภาคกลาง และตะวันออกจะมีแนวโน้มลดลง แต่ในวันที่ 27-28 ม.ค.นี้ อาจจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกในพื้นที่เนื่องจากลมเปลี่ยนทิศ และมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ภาคอื่นๆ PM2.5 มีแนวโน้มลดลง ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน งดการเผาในที่โล่ง และลดเวลาการทำกิจกกรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง และปรึกษาแพทย์ หากพบอาการผิดปกติ

น.ส.ศิวพร กล่าวว่า การบูรณาการแก้ไขปัญหา PM2.5 ในช่วงนี้ ศกพ. ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผนเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ลดและควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มงวด

 

ทส.ขอให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่รวบรวมแผนผลการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และ PM2.5 คุณภาพอากาศ ข้อมูลจุดความร้อน และการคาดการณ์สภาพอากาศ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้เป็นข้อมูลประกอบการแก้ไขปัญหา

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเครือข่ายในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรและพื้นที่ชุมชน หากพบการเผาจะเร่งเข้าระงับเหตุทันที เพื่อบรรเทาสถานการณ์ PM2.5 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง