นศ.โต้ข้อหารับจ้างมาชุมนุม-เหมือนยุค 6 ตุลา ถามกลับรัฐประหารหมดเท่าไหร่-ใครหนุนหลัง

การเมือง
26 มิ.ย. 58
10:54
187
Logo Thai PBS
นศ.โต้ข้อหารับจ้างมาชุมนุม-เหมือนยุค 6 ตุลา ถามกลับรัฐประหารหมดเท่าไหร่-ใครหนุนหลัง

ขบวนการประชาธิปไตยใหม่เปิดแถลงโต้กระแสใส่ร้าย กล่าวหาว่านักศึกษาหลงผิด เหมือนสมัย 6 ตุลา และมีทุนหนุนหลังการชุมนุม ทั้งที่บางคนมีเสื้อผ้าชุดเดียวใส่มา 3 วันแล้ว ถามกลับตอนรัฐประหารใครเป็นทุนหนุนหลัง และหมดงบประมาณไปเท่าไหร่

วันนี้ (26 มิ.ย.2558) เวลา 14.30 น. นักศึกษา-นักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ แถลงข่าวที่สวนเงินมีมา เขตคลองสาน ระบุว่า ตามที่มีข่าวพวกเรา นักศึกษา-นักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ปรากฎทางสื่อต่างๆ มา ทั้งในทางที่เป็นการให้ร้ายต่อพวกเรา และสร้างความเข้าใจผิดให้กับขบวนฯ เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องสื่อมวลชน และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลาย เราขอชี้แจงดังนี้

ตามที่เป็นข่าวว่าเรามีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง เราขอชี้แจงว่า คนที่อยู่เบื้องเราทั้งหมดคือ ประชาชน ผู้หวงแหนสิทธิ และผู้รักประชาธิปไตย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำเปิดเผยต่อสาธารณะทุกประการ

ตั้งแต่เหตุการณ์วันที่ 24-25 มิ.ย. ที่ผ่านมา เราเดินด้วยเท้าเปล่า เราต่อสู้ด้วยมือเปล่า วันที่ 24 มิ.ย. เราเดินทางมาทำกิจกรรมด้วยรถแท๊กซี่ วันที่ 25 มิ.ย. เราเดินทางด้วยรถเมล์ ขากลับเรานั่งรถสองแถว การปราศรัยที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็มีเพียงโทรโข่งเพียงตัวเดียว มีเพียงกล่องรับบริจาคใบเดียว และพวกเราใส่กางเกงในตัวเดียวมา 3 วันแล้ว เครื่องแต่งกายเราก็แทบไม่ได้เปลี่ยน มีเพียงเสื้อตัวเก่าที่แทบไม่ได้เปลี่ยน รองเท้าแตะ รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวของผมและเพื่อน ก็มีเพียงเท่านี้

กิจกรรมที่กลุ่มของเราทำมาโดยตลอด การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ทำมากว่า 10 ปี กี่ชุมชน กี่หมู่บ้าน ที่เราลงไปต่อสู้ด้วย ทุกอย่างได้พิสูจน์ในตัวของมันเองแล้ว ข้อกล่าวหาเรื่องเรารับทุนเบื้องหลัง จึงเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นเพียงเกมการเมืองสกปรกของพวกท่าน เลิกเถอะครับ มุขแบบสมัยสงครามเย็น สมัย 6 ตุลา ที่ใส่ร้ายป้ายสีว่า นักศึกษาคือผู้หลงผิด ประวัติศาสตร์ก็ได้ให้บทเรียนเราแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ 6 ตุลา ที่รัฐพยายามป้ายสีนักศึกษาประชาชน ว่าถูกจ้างมา มีเบื้องหลัง ผลคือคนในประเทศออกมาฆ่ากัน ถ้าหากท่านไม่ทราบ ก็ขอให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์ให้ดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราอยากให้ตำรวจทหาร เจ้าหน้าที่ ศึกษาประวัติศาสตร์วิกฤติทางการเมืองไทยทุกครั้ง ว่าที่ทหารเข้ามายึดอำนาจรัฐด้วยการกระทำรัฐประหาร จุดจบของท่านคืออะไร ? เมื่อวาน เราได้เดินทางไปยังอนุสรณ์สถาน 3 แห่ง ตั้งแต่ลานประติมากรรม 6 ตุลา, อนุสาวรีย์พฤษภา 35 และอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ทุกเหตุการณ์คือวิกฤติทางการเมืองที่คนไทยทุกคนควรจดจำและย้ำเตือนตนเอง ว่าสุดท้ายแล้ว การที่ทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่สวยหรูสักเพียงใด แต่ผลลงเอยท้ายที่สุดมันกลับก่อให้เกิดบาดแผลอันใหญ่หลวงในสังคม ยังไม่นับรวมมรดกแห่งเผด็จการที่ยังทิ้งซากหลงเหลือให้คนรุ่นหลังต้องมาแก้ไขจำนวนมาก

สิ่งที่เราต้องถามกลับพวกท่านมากกว่าคือ คุณหมดงบประมาณไปเท่าไหร่กับการรัฐประหาร ใครเป็นกลุ่มทุนหนุนหลังพวกท่าน ใครคือกลุ่มที่หนุนหลังการยึดอำนาจประชาชน ใครสนับสนุนงบประมาณพวกท่านในการระดมกำลังคอยติดตามพวกเราโดยตลอด?

อีกประเด็นหนึ่ง เรื่องการที่ท่าน ผบ.ทบ.บอกว่า ครู อาจารย์ สถาบันการศึกษาต้องมีหน้าที่อบรม ไม่ใช่สอนให้นักศึกษาแสดงออกในทางที่ผิด เราขอยืนยันว่าในประเทศที่เป็นอารยะ เสรีภาพในการแสดงออก เสรีภาพทางวิชาการ เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการศึกษา โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย ฉะนั้นการที่ทหารจะเข้าแทรกแซง สั่งให้อาจารย์สอนนักศึกษาว่าไม่ควรออกมาแสดงความคิดเห็น ย่อมเป็นการขัดแย้งอย่างรุนแรงต่ออุดมการณ์พื้นฐานของการศึกษา

เราทราบดีว่า ในระบบของกองทัพ การเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาคือหัวใจสูงสุด แต่ในโลกของการศึกษาสามัญแบบโลกสมัยใหม่ ในสังคมของประชาธิปไตยที่พัฒนาแล้ว การสอนให้เยาวชนมีจิตสำนึกในการกล้าวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งคำถาม กล้าแสดงออก คือปัจจัยสำคัญต่อความงอกงามของสติปัญญาของนักเรียน นักศึกษา หาใช่การเชื่องและเชื่อฟังนายแบบกองทัพไม่

เราขอย้ำอีกครั้งว่า เราจะต่อสู้ต่อไปด้วยหลักการ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธีปราศจากความรุนแรง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ เราทำด้วยความบริสุทธิใจ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยปราศจากระบอบเผด็จการ

พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย โปรดส่งกำลังใจมาให้พวกเรา
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง