หารือวิกฤตการเงินกรีซไร้ข้อสรุป ส่อแววล้มละลาย-ออกจากยูโรโซน

ต่างประเทศ
12 ก.ค. 58
08:21
166
Logo Thai PBS
หารือวิกฤตการเงินกรีซไร้ข้อสรุป ส่อแววล้มละลาย-ออกจากยูโรโซน

การหารือของประเทศยุโรปกลุ่มยูโรโซนเพื่อหาทางช่วยกอบกู้วิกฤตการเงินของกรีซไม่ให้ล้มละลาย ต้องยุติลงโดยไร้ข้อสรุปท่ามกลางความแตกแยกอย่างหนัก ส่อเค้าว่าการพ้นสภาพสมาชิกชาติใช้สกุลเงินยูโรของกรีซอาจเกิดขึ้นจริงในไม่ช้า

รัฐมนตรีคลังชาติยูโรโซนหรือกลุ่มประเทศยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโรสิ้นสุดการหารือภายในกรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.ค.2558) โดยไม่มีข้อสรุปมาตรการช่วยกรีซ อย่างไรก็ตามบรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนทั้ง 19 ประเทศ รวมถึงกรีซจะกลับมาหารือกันใหม่ช่วงสายวันนี้

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเกิดความแตกแยกกันอย่างหนักในประเด็นให้เงินช่วยเหลือกรีซเป็นโครงการที่ 3 เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งประธานกลุ่มยูโรโซนกล่าวว่า มีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในประเด็นความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ โดยชาติหลักที่ต่อต้านการรีบทำข้อตกลงตามข้อเสนอร้องขอจากกรีซ ประกอบด้วย เยอรมนีและฟินแลนด์

รัฐมนตรีคลังเยอรมนี ระบุว่า ไม่พร้อมที่จะยอมรับการคิดคำนวนที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เยอรมนีไม่สามารถเชื่อในคำมั่นสัญญาอะไรอีกแล้วเพราะฝ่ายกรีซได้ทำลายความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและเยอรมนีมีระบบเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในชาติยูโรโซน จึงเป็นชาติหลักที่ให้เงินกู้แก่กรีซ และสำหรับชาติที่ต้องการให้ช่วยกรีซโดยเร็วได้แก่ ฝรั่งเศส

หากการประชุมระดับรัฐมนตรียูโรโซนนี้ล้มเหลวก็จะเป็นหน้าที่การประชุมระดับประมุขรัฐของประเทศในยุโรป ทั้งนี้สื่อชั้นนำของโลกวิเคราะห์ว่ามีเพียงสัญญานอันน้อยนิดเท่านั้นว่าจะสำเร็จเป็นการบรรลุข้อตกลงเพื่อกอบกู้ระบบการเงินของกรีซไม่ให้ล่มสลายและไม่ให้กรีซต้องออกจากกลุ่มประเทศยุโรปที่ใช้สกุลเงินยูโร

รัฐบาลกรีซภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ซึ่งมีความคิดฝ่ายซ้าย ยื่นข้อเสนอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารกลางแห่งยุโรป (ECB)  อนุมัติโครงการเงินกู้ 53,500 ล้านยูโร มาต่อลมหายใจให้กรีซที่ถังแตกเงินหมดประเทศในระยะ 3 ปีข้างหน้า

สำหรับขณะนี้เงินที่พอจะมีไหลเวียนอยู่ภายในระบบเศรษฐกิจของกรีซได้มาจากการอนุมัติเงินจำนวนไม่มากก้อนหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้ธนาคารทุกแห่งของกรีซปิดยาวมาตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2558 และประชาชนไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้แค่วันละ 60 ยูโรต่อคนเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง