อิหร่านยอมจำกัดโครงการนิวเคลียร์แลกการยกเลิกคว่ำบาตรจากนานาชาติ 
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แถลงเตือนอิหร่านว่าหากอิหร่านละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามเอาไว้ในวันนี้จะทำให้นานาชาติกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีก ผู้นำสหรัฐอเมริการะบุว่าเจ้าหน้าที่อาจจะเข้าไปตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้เมื่อมีเหตุผลจำเป็น เนื่องจากข้อตกลงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นผลมาจากความไว้เนื้อเชื่อใจกัน แต่เป็นผลมาจากข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้ว่าอิหร่านได้ลดศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของตนเองลงจริงๆ
นอกจากนี้โอบามายังประกาศที่จะใช้อำนาจของประธานาธิบดีในการยับยั้งมติใดๆ ที่จะล้มล้างข้อตกลงนิวเคลียร์ในครั้งนี้ ซึ่งขั้นตอนหลังจากการเจรจาเสร็จสิ้นลง สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาจะใช้ระยะเวลา 60 วัน ตรวจสอบและอภิปรายก่อนการลงมติรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านอีกครั้ง
นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน แถลงว่าข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะของทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นลง นอกจากนี้ยังเป็นการลดการเผชิญหน้ากันด้านนิวเคลียร์ในระยะเวลา 13 ปีลง ผู้นำอิหร่านระบุว่าการเจรจาบนพื้นฐานที่สร้างสรรค์สามารถบรรลุผลได้จริงหลังจากที่การคว่ำบาตรจากนานาชาติทำให้ชีวิตของประชาชนชาวอิหร่านเดือดร้อนมานาน
ด้านนายยูคิยะ อามาโนะ หัวหน้าสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ออกมาประกาศว่าเขาได้ลงนามในข้อตกลงโรดแมปกับผู้แทนของรัฐบาลอิหร่านแล้ว โดยอิหร่านจะแจกแจงรายละเอียดของโครงการนิวเคลียร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันให้ IAEA รับทราบ นอกจากนี้จะยินยอมให้คณะผู้ตรวจสอบของ IAEA เข้าถึงฐานทัพที่ถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อตรวจสอบกิจกรรมทางนิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยตามที่อิหร่านถูกกล่าวหามาโดยตลอด รวมทั้งอิหร่านจะปิดเครื่องหมุนเหวี่ยงแยกยูเรเนียมจำนวน 2 ใน 3 ลง ภายในระยะเวลา 10 ปี แต่มาตรการห้ามซื้อขายอาวุธกับอิหร่านจะยังคงมีผลต่อไปอีก 5 ปี
ขณะที่นายเบนจามิน เนธันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่คัดค้านการเจรจาในครั้งนี้มาโดยตลอด กล่าวว่า การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ถือเป็นความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์ของโลก ขณะเดียวกันก็ระบุว่าการทำข้อตกลงในครั้งนี้ ทำให้นึกถึงสมัยที่สหรัฐอเมริกาทำข้อตกลงร่วมกับเกาหลีเหนือเมื่อปี 2537 ในยุคของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่อดีตผู้นำสหรัฐอเมริกา เคยกล่าวว่าเป็นข้อตกลงที่ดีสำหรับสหรัฐอเมริกาและโลก
ล่าสุดจนถึงขณะนี้เกาหลีเหนือยังไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้และยังผลิตอาวุธนิวเคลียร์อีกด้วย ซึ่งผู้นำอิสราเอล คาดว่าผลของการทำข้อตกลงกับอิหร่านในครั้งนี้จะออกมาในลักษณะเดียวกันกับเกาหลีเหนือ