ทีมนักวิจัยไทยพัฒนาหุ่นยนต์ลำเลียงยาสำเร็จ ช่วยจ่ายยาเร็วจึ้น ลดงบฯ ยาเหลือทิ้ง

Logo Thai PBS
ทีมนักวิจัยไทยพัฒนาหุ่นยนต์ลำเลียงยาสำเร็จ ช่วยจ่ายยาเร็วจึ้น ลดงบฯ ยาเหลือทิ้ง

จากนี้ไปผู้ที่ใช้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขอาจจะใช้เวลาที่ช่องจ่ายยาน้อยลง เพราะนักวิจัยไทยสามารถพัฒนาหุ่นยนต์ลำเลียงยาอัตโนมัติได้สำเร็จ ซึ่งนอกจากช่วยให้การสั่งจ่ายยาเป็นไปอย่างรวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดงบประมาณจากยาที่เหลือทิ้งได้ 1 พันล้านบาท

หุ่นยนต์ลำเลียงยาอัตโนมัติหรือบีไฮฟ์-วัน (B-Hive1) ถูกพัฒนาร่วมกันระหว่างทีมนักวิจัยศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านชีววิทยาศาสตร์ หรือ TCELS กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี บริษัท สุพรีม ไฮทีร่า จำกัด และทีมนักศึกษาจากสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นความสำเร็จของทีมนักวิจัยไทยที่สามารถพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศไทยได้

บีไฮฟ์-วัน (B-Hive1) ถูกสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาระบบการจ่ายยาที่มีข้อจำกัดในวงการแพทย์และสาธารณสุขของไทย เช่น เครื่องจ่ายยาเดิมที่ไม่สามารถจ่ายยาได้ครบทุกรูปแบบ เช่น แบบผง กล่อง หรือขวด และข้อจำกัดด้านความเร็วที่ไม่สามารถรองรับปริมาณผู้ป่วยที่มารับยาที่โรงพยาบาลได้

มัลลิกา ปทุมวัน ทีมนักวิจัยเอกชน เปิดเผยว่าหุ่นยนต์ของต่างประเทศมีลักษณะเป็นโรบอทอาร์ม ใช้มือไปจับกล่องยาทีละกล่องๆ ซึ่งทำงานค่อนข้างจะช้า แต่ของเราจะใช้วิธีการดีดออกมา ซึ่งการดีดจะสามารถดีดพร้อมกัน หลายช่องหลายกล่อง ทำให้ความเร็วในการทำงานจะเร็วกว่าที่มีอยู่แล้ว ความเร็วของของบีไฮฟ์-วัน อยู่ที่ 150 ใบยาต่อ 1ชั่วดมง ซึ่งถ้าต้องการความเร็วมากขึ้นก็เพิ่มจำนวนตู้ ก็จะจ่ายยาได้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังตรวจสอบข้อมูลยาคงเหลือแต่ละชนิดโดยจัดส่งไปยังเภสัชกรผ่านระบบสายพานลำเลียงได้อย่างครบวงจร ลดภาระงานเภสัชกรเหลือเพียงตรวจเช็คยา ลดข้อผิดพลาด และปัญหาการสูญหายของยา ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณจากการลดปริมาณยาเหลือทิ้งได้มูลค่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

ปัจจุบันระบบดังกล่าวพัฒนาแล้วเสร็จและพร้อมจำหน่ายในราคาถูกกว่าเครื่องนำเข้าที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานใกล้เคียงกัน ประมาณ 1 เท่า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง