กรมอุทยานฯเสนอเพิกถอน น.ส.3 ก.รุกเขตห้ามล่าสัตว์ป่า

ภูมิภาค
21 ก.ย. 58
14:35
183
Logo Thai PBS
กรมอุทยานฯเสนอเพิกถอน น.ส.3 ก.รุกเขตห้ามล่าสัตว์ป่า

ไทยพีบีเอสยังติดตามความไม่ชอบมาพากลของเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.ทับพื้นที่ป่าพรุ เขตห้ามล่าสัตว์ป่า จ.สงขลา ขณะนี้มีคำยืนยันจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชแล้วว่า ที่ดินกว่า 900 ไร่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ หลังบริษัทเอกชนเข้าครอบครองเตรียมจะปลูกปาล์มน้ำมัน

วันนี้ (21 ก.ย.2558) ความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีบริษัทปาล์มไทยพัฒนาบุกรุกพื้นที่ป่าพรุในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง กว่า 900 ไร่นั้น นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า พื้นที่นี้อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ กรณีที่เกิดขึ้นจึงได้แจ้งความดำเนินคดีและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แล้ว
 
นายสุพจน์ เพริศพริ้ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สงขลา กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า พื้นที่ป่าพรุที่อยู่ในการครอบครองของบริษัทปาล์มไทยพัฒนาตามเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. 23 แปลง กว่า 900 ไร่นั้น จากการตรวจสอบภาพระหว่างรูปถ่ายทางอากาศย้อนหลัง 40 ปีที่แล้ว พบว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นป่าพรุที่สมบูรณ์และไม่เคยมีการทำประโยชน์ การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน น.ส.3 ก.ทั้ง 23 แปลง ไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดิน จึงได้เสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. ซึ่งอยู่ในการครอบครองของบริษัทปาล์มไทยพัฒนาทั้งหมด
 
ด้านนายวิรัช ตระกูลฮุน ผู้จัดการทั่วไปบริษัทปาล์มไทยพัฒนา กล่าวว่า หากมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินทั้ง 23 แปลงจริง ก็จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางกรมที่ดินที่ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากทางบริษัทได้ที่ดินดังกล่าวมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการซื้อขายที่ดินที่สำนักงานที่ดิน จ.พัทลุง สาขาปากพะยูน ซึ่งทางบริษัทไม่มีทางทราบได้ว่าเอกสารสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะก่อนหน้านี้ที่ดินดังกล่าวมีการเปลี่ยนมือมาแล้วหลายทอด จึงขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง