24 องค์กรยื่น 3 เหตุผลหยุด “เขื่อนแม่วงก์” ทำลายระบบนิเวศ-งบฯสูง-ใช้ทางเลือกอื่น

สิ่งแวดล้อม
25 ก.ย. 58
07:23
267
Logo Thai PBS
24 องค์กรยื่น 3 เหตุผลหยุด “เขื่อนแม่วงก์” ทำลายระบบนิเวศ-งบฯสูง-ใช้ทางเลือกอื่น

24 องค์กรออกแถลงการณ์ขอให้พิจารณาไม่สร้างเขื่อนแม่วงก์ ขณะที่คชก.กำลังพิจารณาอีไอเออีกครั้งวันนี้ ระบุเหตุผล 3 ข้อ คือ ควรใช้ทางเลือกอื่นแทนเขื่อน ซึ่งจะเก็บน้ำได้มากกว่า งบประมาณจัดการน้ำแบบอื่น น้อยกว่าการสร้างเขื่อนแม่วงก์ถึง 6 เท่า และเขื่อนส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของมรดกโลก

วันนี้ (25 ก.ย.2558) ที่หน้าสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) มูลนิธิสืบนาะเสถียร ร่วมกับองค์กรต่างๆ เช่น มูลนิธิโลกสีเขียว สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย กองทุนสัตวืป่าโลกสากล (WWF) ประเทศไทย เครือข่ายป่าชุมชนนครสวรรค์ มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ กลุ่มใบไม้ กลุ่ม Big Tree ฯลฯ รวม 24 องค์กร ออกแถลงการณ์ “ขอให้พิจารณาทางเลือกในการจัดการน้ำแบบบูรณาการ กรณีไม่ต้องสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.นครสวรรค์” ขณะที่ในวันนี้ คณะกรรมการผู้ชำนาญการ จะมีการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผบกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) อีกครั้ง

สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ได้มีการเสนอรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพของประชาชน โครงการเขื่อนแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ (EHIA) ต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งเตรียมที่จะมีการจัดประชุมคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านการพัฒนาแหล่งน้ำอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 25 ก.ย.2558 เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กกวล.) พิจารณาในขั้นต่อไป

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ท่ามกลางการทักท้วงของคนในสังคมเป็นจำนวนมาก ทั้งองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมทั้งมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และความเห็นของคณะทำงานตรวจสอบข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาข้อมูลวิชาการด้านป่าไม้ สัตว์ป่า ความหลากหลายทางชีวภาพ การบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งประโยชน์และความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการสร้างเขื่อนที่้ต้องแลกมาด้วยผืนป่าแม่วงก์ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญ ทั้งนี้ผู้ศึกษาไม่สามารถแก้ไขและชี้แจงประเด็นดังกล่าว ให้เป็นที่ยอมรับแก่ทุกภาคส่วนในสังคมได้

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร จึงขอแสดงเจตนารมณ์ที่จะคัดค้านการก่อสร้างในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ และใคร่ขอเสนอให้มีการพิจารณาทางเลือกในการจัดการน้ำแบบบูรณาการ กรณีไม่ต้องสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ในกรณีของการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ และกรณีของการใช้ทางเลือกในการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ การไม่ต้องสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จะได้ปริมาณน้ำที่ใกล้เคียงกัน กล่าวคือ การสร้างเขื่อนแม่วงก์จะได้ปริมาณน้ำ 250 ล้านลูกบาศก์เมตรโดยประมาณ ส่วนการใช้ทางเลือกในการจัดการน้ำแบบบูรณาการ กรณีไม่ต้องสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งชาติ จะได้ปริมาณน้ำ 200 ล้านลูกบาศก์เมตรโดยประมาณ

2.งบประมาณในการจัดทำทางเลือกในการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ กรณีไม่ต้องสร้างเขื่อนแม่วงก์ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีค่าใช้จ่ายในการจัดทำโครงการ ถูกกว่างบประมาณที่จะใช้ในการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ ถึงกว่า 6 เท่าตัว กล่าวคือ โครงการก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์ใช้งบประมาณ ทั้งสิ้น 13,000 ล้านบาท ขณะที่ทางเลือกการจัดการน้ำแบบบูรณาการ กรณีไม่ต้องสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ใช้งบประมาณในการจัดทำโครงการ 1,940 ล้านบาท โดยประมาณ

3.คุณค่าของป่าที่ราบต่ำริมน้ำแม่วงก์และผืนป่าตะวันตก ซึ่งมีศักยภาพเพียงพอต่อการเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ หากมีการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศ และการกระจายถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในผืนป่าตะวันตก ที่ได้ผ่านการอนุรักษ์และฟื้นฟูประชากร จนประสบความสำเร็จมาคตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร จึงขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ และใคร่ขอนำเสนอ "ทางเลือกในการจัดการน้ำแบบบูรณาการ กรณีไม่ต้องสร้างเขื่อนในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์" โดยขอวิงวอนให้ท่านรับฟังข้อคิดเห็นต่างๆอย่างรอบด้าน และตระหนักถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บนความถูกต้องตามหลักวิชาการเป็นสำคัญ ทั้งนี้มูลนิธิสืบนาคะเสถียรยินดีประสานความร่วมมือในการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่แม่วงก์ต่อไป

ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ไทยพีบีเอสออนไลน์
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl


ข่าวที่เกี่ยวข้อง