ชวนรู้ "เส้นทางเดินแสวงบุญ" พิธีฮัจญ์

ต่างประเทศ
25 ก.ย. 58
16:04
1,356
Logo Thai PBS
ชวนรู้ "เส้นทางเดินแสวงบุญ" พิธีฮัจญ์

การประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นกิจกรรมที่ทำให้มนุษย์มารวมตัวกันมากที่สุดในโลก โดยสิ่งที่ผลักดันผู้คนให้ออกมาคือความศรัทธาในศาสนา และการแสวงบุญในพิธีดังกล่าวยังเป็น 1 ในเสาหลัก 5 ประการ ที่ชาวมุสลิมมีผู้มีกำลังทรัพย์และความสามารถมากพอ ต้องเดินทางเข้าร่วมที่นครมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เส้นทางการเดินแสวงบุญที่เกิดโศกนาฏกรรมบ่อยครั้งเป็นอย่างไร ทางการซาอุดิอาระเบียได้จัดการเรื่องความปลอดภัย แก่ผู้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์มากขึ้นหรือไม่ ติดตามได้จากรายงาน

วันนี้ (25 ก.ย. 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประกอบพิธีฮัจญ์จะใช้เวลารวม 5 วัน โดยเริ่มต้นที่อาคารกะบะห์ ในมัสยิดอัล-หะรอม ผู้แสวงบุญจะเดินทวนเข็มนาฬิการอบอาคารกะบะห์ 7 รอบ จากนั้นจะเดินเท้าแสวงบุญผ่านทุ่งมีนา ซึ่งเป็นเมืองกระโจมที่รองรับผู้แสวงบุญนับแสนคน โดยจะพักที่จุดนี้หนึ่งคืน จากนั้นจะเดินเท้าต่อไปยังทุ่งอาราฟัตเป็นจุดที่ 3 ทำการละหมาดตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงตะวันตกดินเพื่อรำลึกถึงศาสดานะบี มูฮัมหมัด ซึ่งทุ่งอาราฟัตคือสถานที่เผยแพร่คำสั่งสอนครั้งสุดท้ายของศาสดามูฮัมหมัด

จากนั้นผู้แสวงบุญจะเดินทางต่อไปยังจุดที่ 4 คือ บริเวณมัสยิดมุสดาลิฟะห์ เพื่อเก็บก้อนกรวดไว้สำหรับการเดินทางกลับไปยังทุ่งมีนาอีกครั้งหนึ่ง โดยการเดินย้อนกลับไปเมืองมีนาครั้งที่ 2 มีการประกอบพิธีกรรมสำคัญ คือการขว้างเสาหินแทนความชั่วร้ายทั้งสามต้นเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย

“ที่ผ่านมาเคยเกิดโศกนาฏกรรมที่จุดนี้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น หลังเกิดเหตุเหยียบกันเสียชีวิตเมื่อปี 2539 ทางการซาอุดิอาระเบียได้ทุ่มงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างสะพานจามารัทขึ้นใหม่เพื่อขยายช่องทางเดิน และสร้างอาคารสำหรับขว้างหินเพื่อกระจายคน ขณะที่เสาหินใหม่ก็สร้างใหม่ จากเดิมเป็นเสากลมก็เปลี่ยนเป็นแผ่นหินสี่เหลี่ยมเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขว้าง ไม่ให้กระจุกตัวอยู่บริเวณเดียว รวมทั้งวางระบบดูแลการไหลของคน เมื่อผู้แสวงบุญปาเสาหินเสร็จก็จะเดินทางกลับไปยังมัสยิดศักดิ์สิทธิอัล-หะรอม เพื่อละหมาดและเดินวนรอบอาคารกะบะห์อีก 7 รอบ เป็นอันสิ้นสุดการแสวงบุญ” ผู้สื่อข่าวระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ในแต่ละปีจะมีผู้เดินทางร่วมประกอบพิธีฮัจญ์นับล้านคน ซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2539 มีผู้เสียชีวิต 1,426 คน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา ทางการซาอุดิอาระเบียได้สร้างทั้งสะพานและอุโมงค์รวมถึงอาคารอีกหลายแห่ง เพื่อทำให้การประกอบพิธีฮัจญ์เป็นระเบียบและปลอดภัยมากขึ้น

ส่วนความผิดพลาดของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในปีนี้ (2558) ที่คน 2 กลุ่ม เดินมาชนกันจนเสียชีวิต ต้องรอผลสอบสวนอย่างเป็นทางการจากซาอุดิอาระเบีย ทว่า สำนักข่าวบีบีซี ประเทศอังกฤษ ตั้งข้อสังเกตไว้อย่างน่าสนใจ โดยมองว่าการแสวงบุญมีชาวมุสลิมนับล้าน ๆ คนเข้ามาร่วม ซึ่งคนจากทั่วโลกมีความแตกต่างด้านภาษาและวัฒนธรรม ดังนั้น เวลาเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งเรื่องเส้นทางให้หยุดเพื่อให้อีกกลุ่มเดินไปก่อน อาจไม่เข้าใจภาษาดังกล่าว จึงอาจเป็นเหตุให้เดินสวนกันในช่องทางแคบ ๆ และอาจเป็นที่มาของโศกนาฏกรรมในครั้งนี้
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง