ตร.ล่า “อ๊อด นปช.” โยงบึ้มราชประสงค์-สาทร พบประวัติเคยทำผิด 9 คดี-ไม่มีเลข 13 หลัก

อาชญากรรม
30 ก.ย. 58
10:55
618
Logo Thai PBS
ตร.ล่า “อ๊อด นปช.” โยงบึ้มราชประสงค์-สาทร พบประวัติเคยทำผิด 9 คดี-ไม่มีเลข 13 หลัก

ตร.ล่าตัว "อ๊อด นปช." โยงคดีระเบิดราชประสงค์-ท่าเรือสาทร สอบประวัติพบไม่มีเลข 13 หลัก แต่เคยต้องคดีมาแล้ว 9 ครั้ง ตร.ลงพื้นที่อยุธยาล่าตัวที่บ้าน ซึ่งเคยให้การไว้

วันนี้ (30 ก.ย.2558) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภาพถ่ายของนายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว 1 ในผู้ต้องหาตามหมายจับคดีระเบิดราชประสงค์ และท่าเรือสาทร พร้อมเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบประวัติของนายอ๊อด พบว่านายอ๊อด เคยมีภรรยา แต่เสียชีวิตแล้ว และมีบุตรสาว 1 คน ซึ่งส่งไปให้สถานสงเคราะห์เด็กแห่งหนึ่งในจ.นนทบุรี อุปการะตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ต่อมามีชาวออสเตรเลีย รับไปเป็นเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ขณะเด็กอายุ 6 ขวบ เมื่อ 10 ปี ก่อน และอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย จนถึงขณะนี้อายุ 16 ปี แล้ว จึงได้ให้ชุดสืบสวนขอข้อมูลจากสถานเลี้ยงเด็กดังกล่าว และพบว่ามารดาของนายอ๊อด อยู่ที่บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในจ.ชลบุรี จึงสั่งชุดสืบสวนไปสอบถามข้อมูลจากมารดานายอ๊อด พร้อมนำภาพถ่ายให้ยืนยันด้วย

จากการสืบสวนประวัติของนายอ๊อดพบว่า เคยถูกดำเนินคดีทั้งหมด 9 คดี และ เคยถูกทหารจับกุมบริเวณซอยเพชรบุรี เมื่อปี 2553 เนื่องจากฝ่าฝืน พระราชกำหนดในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีพยายามเข้าไปชุมนุมกับกลุ่ม นปช. ซึ่งทหารพบว่านายอ๊อด เป็นการ์ดของกลุ่มนปช.ด้วย ก่อนส่งนายอ๊อดดำเนินคดีที่ สน.พญาไท และศาลแขวงดุสิต มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำคุก 1 เดือน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี และนายอ๊อด ถูกส่งควบคุมที่เรือนจำกลางคลองเปรม 3 วัน ก่อนได้รับการประกันตัว และหลบหนีคดี

ซึ่งตำรวจจะประสานข้อมูลจากฝ่ายทหาร กรมราชทัณฑ์ และนายประกันของนายอ๊อด ด้วย ซึ่งขณะถูกจับกุมทุกครั้งนายอ๊อดจะให้ข้อมูลว่า พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในอ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นพบว่า บ้านหลังนี้มีผู้พักอาศัยรวม 27 คน ซึ่งอยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบ

พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า การที่นายอ๊อด ไม่มีเลข 13 หลัก ก็ไม่เป็นปัญหาในการสืบสวนติดตามจับกุม เนื่องจากเป็นการจับตามหมายจับ และได้ตรวจสอบไปยังศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ เบื้องต้นก็ไม่พบประวัตินายอ๊อด

นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุถึงกรณีไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะไม่กระทบต่อกระบวนการสืบสวนสอบสวนของคดีนี้ เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตัวเองดูแลคดีนี้ต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ติดตามข่าวสารอย่างรวดเร็วผ่านไทยพีบีเอสออนไลน์
https://www.facebook.com/ThaiPBSNews?ref=hl


แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง