ด่วน! เกิดเหตุโจมตีกลางกรุงปารีสตาย 43 คน ปธน.ฝรั่งเศสประกาศภาวะฉุกเฉิน-สั่งปิดชายแดน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กรุงปารีสเผชิญเหตุโจมตีสะเทือนขวัญอีกครั้ง หลังเกิดเหตุกราดยิง เหตุระเบิดและบุกจับตัวประกันในหลายจุดของเมือง
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงในกรุงปารีสถึง 6 จุดและมีเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 3 ครั้งที่สนามกีฬาสตาด เดอ ฟรองส์ (Stade De France) ขณะที่มีรายงานว่า มือปืน 2 ถึง 3 คน บุกเข้าไปในศูนย์ศิลปะ "บาตาคล็อง" (Bataclan) และจับคนเป็นตัวประกัน แต่ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด นอกจากนี้มือปืนยังกราดยิงที่ภัตตาคาร "เปติท แคมโบดจ์" (Petit Cambodge) ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน
ขณะเกิดเหตุประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสกำลังชมการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนีอยู่ที่สนามกีฬาสตาด เดอ ฟรองส์ แต่ไม่ได้รับอันตราย โดยเจ้าหน้าที่ได้คุ้มกันนายออลลองด์ไปที่กระทรวงมหาดไทย
ตำรวจต้องระดมกำลังเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ขณะที่มีรายงานว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ปืนกลอัตโนมัติเอเค-47 เป็นอาวุธ แม้จะยังไม่มีกลุ่มใดอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสต้องสงสัยว่าน่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มคนที่เดินทางไปช่วยกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสสู้รบในซีเรียและอิรัก และเดินทางกลับเข้ามาในฝรั่งเศส
ล่าสุดมีรายงานว่า เหตุจับตัวประกันที่ศูนย์ศิลปะ"บาตาคล็อง" ยังไม่ยุติและยังคงมีเสียงปืนดังออกมา เหตุสะเทือนขวัญในกรุงปารีสที่เกิดขึ้นล่าสุด สร้างความวิตกให้กับสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายทั่วสหรัฐฯ ได้ประชุมกันทันทีเพื่อรวบรวมข้อมูลว่าจะมีการก่อเหตุร้ายในสหรัฐฯหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าจะมีการก่อเหตุโจมตีในเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะสนับสนุนฝรั่งเศส หลังเกิดเหตุร้ายในกรุงปารีส แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้โอบามายังประณามเหตุการณ์ที่เกิดและเสนอให้ความช่วยเหลือฝรั่งเศสอย่างเต็มที่
กรุงปารีสเพิ่งเผชิญเหตุโจมตีไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังมือปืน 2 คน บุกเข้าไปกราดยิงที่สำนักงานนิตยสารชาร์ลี เอบโด ซึ่งเป็นนิตยสารแนวเสียดสีที่เขียนภาพการ์ตูนล้อเลียนศาสดาของศาสนาอิสลาม โดยเหตุโจมตีดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 11 คน นอกจากนี้คนร้าย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันยังก่อเหตุจับตัวประกันที่ร้านค้าของชาวยิวและสังหารตัวประกันไป 4 คน
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างข้อมูลจากสำนักข่าวของฝรั่งเศส ปรับลดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันอยู่ที่ 43 คน ขณะที่มีรายงานว่า ตำรวจได้จู่โจมเข้าไปที่ศูนย์ศิลปะ "บาตาคล็อง" และช่วยตัวประกันออกมาได้ประมาณ 100 คน โดยบางคนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ฟร็องซัว เออล็องด์ ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศ และสั่งปิดชายแดนทุกจุด ผ่านสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศทั่วฝรั่งเศสด้วย