รัฐบาลสั่งดูแลคนไทยในปารีส-ฝรั่งเศสระบุตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 คน

ต่างประเทศ
15 พ.ย. 58
09:10
155
Logo Thai PBS
รัฐบาลสั่งดูแลคนไทยในปารีส-ฝรั่งเศสระบุตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 คน

รัฐบาลไทยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยชุมชนไทยในฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยืนยันวันนี้ว่า ยังไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของวันที่ 13 พ.ย.2558 ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ทางการฝรั่งเศสเร่งติดตามตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ถือว่าเป็นเหตุรุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

เพิ่มการดูแลความปลอดภัยคนไทยในฝรั่งเศส
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์ "ไทยพีบีเอส" วันนี้ (15 พ.ย.2558) ว่ายังไม่มีรายงานว่าไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีในกรุงปารีส แต่รัฐบาลไทยได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตไทยในกรุงปารีสเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและประสานชุมชนไทยและนักเรียนไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีคนไทยหรือนักท่องเที่ยวไทย ขอความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ซึ่งทางสถานทูตไทยประจำกรุงปารีสขอให้คนไทยที่อาศัยในฝรั่งเศสทุกคนติดต่อญาติเพื่อให้เกิดความสบายใจ พร้อมแจ้งจุดเสี่ยงและจุดที่ควรหลีกเลี่ยง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศระบุด้วยว่า แม้ขณะนี้กรุงปารีสยังคงอยู่ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉิน แต่ประชาชนยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าออกประเทศฝรั่งเศส ยังสามารถทำได้ตามปกติเช่นกัน เนื่องจาก สนามบินต่างๆ ไม่ได้ปิดให้บริการ แต่การเดินทางผ่านข้ามแดน อาจถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดในระยะนี้
 
สนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมืองตรวจเข้ม เที่ยวบินกรุงเทพฯ-ปารีสให้บริการปกติ
หลังเกิดเหตุโจมตีหลายจุดในกรุงปารีส ทำให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเพิ่มรอบชุดตรวจผสม ได้แก่ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) หน่วย K-9 พร้อมสุนัขดมกลิ่น ตำรวจจากสภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยวและสารวัตรทหารอากาศ

ทอท.ประเมินว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสจะกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินในระยะสั้นหากสถานการณ์ไม่บานปลาย ขณะที่เที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ที่เดินทางไปกรุงปารีสไม่มีการยกเลิกเที่ยวบิน โดยมีเที่ยวบินจากไทยไปกรุงปารีสวันละ 2-3 เที่ยวทั้งของการบินไทยและแอร์ฟรานซ์

ฝรั่งเศสเริ่มสอบสวนเหตุก่อการร้ายกรุงปารีส เชื่อมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 7 คน
ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ กล่าวว่าการก่อเหตุของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่เข้ามาโจมตีทั้งเหตุกราดยิงและเหตุระเบิดในฝรั่งเศสนั้นได้มีวางแผนจากภายนอกและร่วมมือกับพรรคพวกเครือข่ายที่อยู่ภายในฝรั่งเศส
 
พนักงานสอบสวนของฝรั่งเศสระบุว่าเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พ.ย. มีผู้ก่อเหตุ 7 คนโดยแบ่งเป็น 3 ทีมเข้าโจมตีเป้าหมายทั้งหมด 6 แห่ง สำหรับผู้ก่อเหตุนั้นก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด แต่ล่าสุดชุดสอบสวนกลับเชื่อว่า อาจมีมากกว่านี้ ทางการฝรั่งเศสรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 129 คน บาดเจ็บ 352 คน โดย 99 คนอาการสาหัส และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น

ทางการฝรั่งเศสระบุตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 2 คน คนหนึ่งเป็นชายชาวฝรั่งเศสอายุ 29 ปีที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของกรุงปารีส อีกคนหนึ่งเป็นชายอายุ 25 ปี ถือหนังสือเดินทางของประเทศซีเรีย ซึ่งรายนี้รัฐบาลกรีซยืนยันว่ามีชื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้อพยพเข้าสู่ทวีปยุโรปอยู่ในกรีซและเชื่อว่าเขาปะปนมากับกลุ่มผู้อพยพก่อนร่วมลงมือโจมตีกรุงปารีส ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายนี้เสียชีวิตอยู่ที่บริเวณโรงละครบาตาคล็องที่มีการแสดงคอนเสิร์ตของวง Eagles of Death ซึ่งเป็นวงดนตรีร็อคจากสหรัฐอเมริกา

มีรายงานว่านิค อเล็กซานเดอร์ ผู้จัดการวงดนตรีวงนี้เสียชีวิตในเหตุกราดยิงที่บาตาคล็องด้วย สร้างความเสียใจให้คนในวงการดนตรีอย่างมาก

เหตุการณ์ที่โรงละครบาตาคล็องเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ 89 คน สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศสรายงานวันนี้ (15 พ.ย.) ว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพ่อและพี่ชายของมือปืนวัย 29 ปีไว้แล้ว โดยพี่ชายของเขาได้ติดต่อขอเข้าพบตำรวจเอง

เวลาประมาณ 18.00 น.วานนี้ (14 พ.ย.) ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มไอเอสได้ออกแถลงการณ์เป็นภาษาฝรั่งเศสและภาษาอาราบิกอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีในครั้งนี้ โดยระบุว่าสมาชิกได้โจมตีสถานที่ต่างๆ ในกรุงปารีส "ที่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี" ซึ่งทางการฝรั่งเศสก็เชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของกลุ่มไอเอสจริง โดยหลังเกิดเหตุการณ์เพียงไม่กี่ชั่วโมงประธานาธิบดีออลลองด์ประกาศกร้าวว่าจะต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุอย่างไม่ปราณี

กลุ่มไอเอสเคยอยู่ร่วมกับฝ่ายกบฏในซีเรียเพื่อต่อสู้กับรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด แต่ต่อมาได้แยกตัวออกมาต่อสู้ไปพร้อมกันทั้งกับฝ่ายกบฏและฝ่ายรัฐบาล สำหรับฐานบัญชาการใหญ่ที่เปรียบเสมือนเมืองหลวงของกลุ่มไอเอสนั้นอยู่ที่เมืองรักคาทางภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีสเพียงไม่กี่วัน เครื่องบินรบของฝรั่งเศสได้เข้าไปโจมตีทางอากาศเป้าหมายบางแห่งภายในเมืองรักคา รวมทั้งยังมีการทิ้งระเบิดทางอากาศใส่แทงค์น้ำมันขนาดใหญ่ที่กลุ่มไอเอสยึดไว้

การโจมตีกรุงปารีสเมื่อวานนี้เชื่อว่าผู้ก่อเหตุเช่ารถยนต์เดินทางเข้ามาจากเบลเยี่ยมเพราะมีการพบรถยนต์ต้องสงสัยจอดไว้ที่บริเวณงานคอนเสิร์ตด้วย

ผู้นำทั่วโลกแสดงความเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่ปารีส ประกาศร่วมต่อต้านการก่อการร้าย
 ผู้นำทั่วโลกออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสและยืนยันว่า พร้อมที่จะช่วยเหลือฝรั่งเศสในการตอบโต้ภัยการก่อการร้าย

นางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พร้อมด้วยสมาชิกคณะรัฐมนตรี เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงเบอร์ลิน เพื่อร่วมลงนามไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส ก่อนหน้านี้นางแองเกลาประกาศว่าไว้อาลัยผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้เสียชีวิต และเยอรมนีพร้อมยืนเคียงข้างฝรั่งเศสในการต่อสู้และจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการโจมตีฝรั่งเศสเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการมุ่งร้ายต่อทุกประเทศทั่วโลก
 
ขณะที่นายบาชาร์ อัล อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย กล่าวแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับชาวฝรั่งเศสและครอบครัวของเหยื่อเหตุก่อการร้ายเมื่อวานนี้ พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ซีเรียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทุกประเทศในการต่อสู้กับภัยการก่อการร้าย แต่ก็วิจารณ์ว่าเหตุดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของฝรั่งเศส

ด้านนายเซย์เอด ฮัสซาน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ซึ่งให้การช่วยเหลือผู้นำซีเรียในสงครามกลางเมือง ออกมาประณามการก่อการร้ายในกรุงปารีสและแสดงความเสียใจต่อเหยื่อและครอบครัว โดยระบุว่า ทางกลุ่มเข้าใจถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากผู้คนในตะวันออกกลางต้องเผชิญกับภัยความรุนแรงอันมีต้นตอมาจากกลุ่มรัฐอิสลามอยู่เป็นประจำ

ส่วนนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลยืนยันว่า อิสราเอลจะร่วมต่อสู้เคียงข้างกับฝรั่งเศสเนื่องจากการโจมตีประเทศใดก็ตาม ถือว่าเป็นการประทุษร้ายทุกประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมโลกสามัคคีกันต่อสู้กับภัยก่อการร้าย โดยเน้นย้ำว่า การก่อการร้ายไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดในโลกต่างก็เป็นสิ่งที่สมควรถูกประณาม และไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ที่สมควรเป็นใช้เหตุให้กระทำการดังกล่าว

ขณะที่นายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนตุรกีเพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ 20 ประเทศ (G20) ในนครอันตัลยาของตุรกี ระบุว่า ชาวออสเตรเลียจะยืนเคียงบ่าเคียงไหลกับฝรั่งเศสในการต่อสู้กับภัยก่อการร้าย ที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ เพื่อปกป้องเพื่อนมนุษย์และเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายที่ประสงค์ร้ายต่อชาวโลก

ด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาที่อยู่ระหว่างการเข้าร่วมประชุมเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งในซีเรียที่กรุงเวียนนา ระบุว่า เหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีสไม่ได้เป็นเพียงการโจมตีกรุงปารีสเท่านั้น แต่ยังเป็นการประทุษร้ายต่อมวลมนุษยชาติอีกด้วย ซึ่งสหรัฐอเมริกาพร้อมที่จะให้การสนับสนุนฝรั่งเศสอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้านเพื่อจัดการกับภัยก่อการร้ายและยังพร้อมร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อร่วมกันกวาดล้างขบวนการก่อการร้ายให้หมดไปจากโลก โดยหลังจากที่กลุ่มรัฐอิสลามได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีเมื่อวานนี้ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูลหลักฐานซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อสรุปที่แตกต่างออกไป  


ข่าวที่เกี่ยวข้อง