หลังนักศึกษากองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาร้องเรียนมายังรายการสถานีประชาชนว่าได้รับเงินค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพล่าช้านานกว่า 6 เดือน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับคำชี้แจงจากมหาวิทยาลัยว่าเกิดจากความล่าช้าของธนาคารกรุงไทย ในการตรวจสอบเอกสาร ด้วยวิธีการใหม่ตามที่ กยศ.กำหนดและบังคับใช้ในปี 2558
นายปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายบริหารหนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ชี้แจงว่า ปีนี้ (2558) เป็นปีแรกที่ กยศ.ได้กำหนดให้ธนาคารกรุงไทยเปลี่ยนวิธีการตรวจสอบเอกสารสัญญากู้และการอนุมัติเงินรูปแบบใหม่ จากเดิมที่จะโอนเงินค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพให้แก่ผู้กู้ทันที หลังผ่านการยืนยันจากมหาวิทยาลัย แต่กลับพบปัญหาว่ามีการปลอมแปลงลายมือชื่อของผู้ค้ำ ส่งผลให้ไม่สามารถตามตัวผู้กู้และผู้ค้ำให้มาชำระหนี้หลังสำเร็จการศึกษาได้
ด้านนายสุรินทร์ พรประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีตรวจสอบเอกสารสัญญาล่าช้า มีสาเหตุมาจากรูปแบบการตรวจสอบเอกสารที่มีความละเอียดมากยิ่งขึ้น ถ้าหากมีความผิดพลาดในเอกสารชุดนั้นก็ต้องส่งเอกสารทั้งหมดกลับไปให้สถานศึกษาตรวจสอบมาใหม่ ประกอบกับภาคการศึกษาที่ผ่านมา สถานศึกษาส่งเอกสารผู้กู้ให้กับธนาคารล่าช้า ธนาคารจึงไม่สามารถดำเนินการได้ตามเวลาที่กำหนด
เบื้องต้น ธนาคารกรุงไทยจะเร่งดำเนินการตรวจสอบเอกสารสัญญาให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2558 และขอความร่วมมือจากสถานศึกษาให้ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและส่งมอบให้กับธนาคารตามระยะเวลาที่กำหนด
จากข้อมูลของ กยศ.เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2558 ระบุว่า ปัจจุบันมีผู้กู้อยู่ระหว่างการศึกษา 984,429 คน ในจำนวนนี้มีผู้กู้ที่ประสบปัญหาจากความล่าช้าในการอนุมัติเงินกว่า 300,000 คน