สำนักงบฯรับอนุมัติงบฯกลาง 63 ล้านให้ทบ. ปรับภูมิทัศน์อุทยานราชภักดิ์-อุดมเดชไม่ออก

การเมือง
2 ธ.ค. 58
00:51
176
Logo Thai PBS
สำนักงบฯรับอนุมัติงบฯกลาง 63 ล้านให้ทบ. ปรับภูมิทัศน์อุทยานราชภักดิ์-อุดมเดชไม่ออก

ผอ.สงป.ยอมรับอนมุัติงบฯกลาง กรณีฉุกเฉิน 63 ล้านบาทให้ ทบ.ปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งดำเนินการตามระเบียบพัสดุ ขณะที่ รมช.กลาโหม ปฏิเสธกระแสข่าวลาออกและไม่หนักใจกับกระแสข่าว

วานนี้ (1 ธ.ค.2558) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานมูลนิธิราชภักดิ์ ปฏิเสธกระแสข่าวลาออกจากตำแหน่ง และไม่หนักใจกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เนื่องจาก เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงส่วนกรณีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ โดยระบุว่า ในระหว่างที่รับผิดชอบมีความโปร่งใสเนื่องจากมีคณะกรรมการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งหลังจากชี้แจงกับกองทัพบกแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม 

พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า นอกจากคณะกรรมการของกระทรวงกลาโหมแล้ว ยังมีคณะกรรมการชุดของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่สามารถตรวจสอบได้  โดยคาดหวังว่าการชี้แจงต่อกระทรวงกลาโหมจะลงลึกถึงรายละเอียดให้ประชาชนเข้าใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับเงิน หรือจ่ายเงินต่าง ๆ หวังว่ากระทรวงกลาโหมหลังจากตรวจสอบแล้วจะสามารถชี้แจงต่อไปได้ แต่ยืนยันว่าจะไม่ก้าวก่ายการตรวจสอบ

ด้านนายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (สงป.) กล่าวว่า เป็นผู้ลงนามอนุมัติใช้งบกลางในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 63 ล้านบาท ให้สำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบกนำไปใช้โครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ เฉพาะรายการที่เกี่ยวกับการปรับปรุงภูมิทัศน์ ส่วนการเบิกจ่ายงบกลางเป็นไปตามระเบียบพัสดุของกรมบัญชีกลางถูกต้องทุกประการตามขั้นตอนการขออนุมัติใช้งบกลาง สำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบกต้องทำเรื่องไปขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากนั้นก็จะส่งเรื่องมาให้ สงป. พิจารณา ก่อนที่ผู้อำนวยการ สงป. จะลงนามอนุมัติก็ต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธที่จะเปิดเผยยอดเงินบริจาคและการใช้จ่ายเงินทั้งหมด ทำให้คนในสังคมยังเกิดข้อสงสัยต่อความโปร่งใสของโครงการนี้ นำมาสู่การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับ กระทรวงกลาโหมอีกชุดหนึ่ง

ขณะที่ พล.อ.เอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ 2 แกนนำนปช. เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ โดยเชื่อว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองจึงจำเป็นต้องเชิญตัวมาทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือต้องการกลั่นแกล้งเพราะหากเป็นเช่นนั้น สามารถบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงได้ทันที เนื่องจากทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมยั่วยุ ปลุกปั่น

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า พล.อ.ประวิตร ได้ชี้แจงเรื่องนี้ต่อคณะรัฐมนตรีว่า หากแกนนำนปช.ต้องการตรวจสอบ ควรใช้วิธีค้นหาเอกสารหลักฐานมากกว่าการลงพื้นที่ ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว

ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ชี้แจงรายการของตนเองทางช่อง Peace TV ว่า แม้การถูกเชิญตัวไปในครั้งนี้ทหารจะดูแลเป็นอย่างดี แต่ยังไม่เข้าใจว่าการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์กระทบต่อความมั่นคงอย่างไร นอกจากนั้นยังพยายามชี้ให้เห็นถึงปัญหาของกระบวนตรวจสอบโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ในทางปฏิบัติทำงานได้ยาก เพราะนอกจากคณะกรรมการของกระทรวงกลาโหม จะมีสถานะเป็นทหารทั้งหมด ประธานยังมีตำแหน่งเพียงแค่รองปลัดกระทรวงฯ แต่ต้องมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง