ปชช.แห่ชม "ฝนดาวตก" บนยอดดอยอินทนนท์ ไม่ผิดหวัง เห็นเยอะเกินคาด

Logo Thai PBS
ปชช.แห่ชม "ฝนดาวตก" บนยอดดอยอินทนนท์ ไม่ผิดหวัง เห็นเยอะเกินคาด

ประชาชนเฝ้าชมฝนดาวตกเจมินิดส์ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ จำนวนมากเมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.2558) ซึ่งต่างก็สมหวังเพราะเห็นดาวตกนับพันดวง สวยงามประทับใจท่ามกลางความหนาวเย็นประมาณ 5 องศาเซลเซียส สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ระบุ นอกจากจะเป็นคืนเดือนมืดแล้วยังมีอัตราการตกต่อชั่วโมงจำนวนมากกว่าทุกปีที่ผ่านมานับว่าเป็น "ปีทองของฝนดาวตกเจมินิดส์"

หอดูดาวของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ บนยอดดอยอินทนนท์  เห็นปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ในคืนที่ผ่านมา เป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน
 
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ที่ยอดดอยอินทนนท์ในคืนนี้ เริ่มเห็นตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. เห็นเป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า เห็นด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน และเริ่มเห็นถี่ขึ้นจนถึงเวลาเที่ยงคืนนับดาวตกได้มากกว่า 500 ดวง หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไปอัตราเฉลี่ย 300 ดวงต่อชั่วโมง ฝนดาวตกเจมินิดส์จะมีจุดเด่นคือมีความเร็วของดาวตกไม่มากนัก จึงสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย สามารถชี้ชวนเพื่อนข้างๆ ให้ชมดาวตกได้อย่างทันท่วงที ในจำนวนนี้ยังมีลูกไฟสว่างให้เห็นหลายดวงอีกด้วย ตลอดช่วงที่ดาวตกปรากฏให้เห็นก็จะมีเสียงฮือฮา โห่ร้องพร้อมเสียงเรียกชี้ชวนกันดูเป็นระยะๆ ทำให้บรรยากาศการเฝ้ารอชมฝนดาวตกเจมินิดส์ในครั้งนี้เต็มไปด้วยความคึกคัก ไม่ผิดหวังที่คาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีทองของฝนดาวตกเจมินิดส์  

น.ส.ประณิตา เสพปันคำ เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร. เล่าให้ฟังถึงวิธีการนับจำนวนฝนดาวตกเจมินิดส์เมื่อคืนนี้ (14 ธ.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่ใช้วิธีนับเป็นกลุ่ม ให้คน 4 คน นั่งหันหลังชนกันเป็น 4 ทิศ ทำให้สามารถมองเห็นดาวตกที่มาจากทุกทิศทางได้อย่างแม่นยำ ปริมาณดาวตกค่อนข้างมาก ตั้งแต่ 22.00-24.00 น.นับได้มากกว่า 500 ดวง ในจำนวนนี้มีลูกไฟสว่างขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากประมาณ 1 ใน 4 ของทั้งหมด ส่วนใหญ่จะเห็นทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก

ส่วนบรรยากาศที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทราและนครราชสีมา มีประชาชนสนใจร่วมกิจกรรมฝนดาวตกเจมินิดส์กันอย่างล้นหลาม มากกว่าพันคน เริ่มสังเกตเห็นดาวตกตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. นับได้ประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง ส่วนในจังหวัดอื่นๆ ได้รับแจ้งจากสมาชิกแฟนเพจของสถาบันฯ ว่า เห็นดาวตกในหลายพื้นที่ของประเทศ เช่น พิษณุโลก บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ ชลบุรี กาญจนบุรี อุดรธานี ขอนแก่น สุรินทร์ ศรีสะเกษ กระบี่ เป็นต้น แต่ปริมาณไม่มากนัก

ที่จังหวัดพิษณุโลก นักศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวรกว่า 500 คน ชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกบริเวณลานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยสภาพอากาศที่เป็นใจ ท้องฟ้าเปิด อากาศเย็น ทำให้มีฝนดาวตกเป็นระยะๆ สร้างความตื่นเต้นแก่นักศึกษาเป็นอย่างมาก

ขณะที่บรรยากาศการชมดาวตกเจมินิดส์ ในจังหวัดเชียงราย มีนักเรียน นักศึกษาและประชาชนจำนวนมากเดินทางมาที่หอดูดาวมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายเพื่อชมปรากฏการณ์ฝนดาวตก โดยมีการติดตั้งจอโปรแจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ไว้ฉายจอภาพและมีวิทยากรด้านดาราศาสตร์มาบรรยายให้ความรู้

ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากสายธารเศษฝุ่น ของแข็ง และน้ำแข็งจำนวนมาก ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200Phaeton) ตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อยเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศของโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า โดยจะปรากฏในช่วงระหว่างวันที่ 4-17 ธ.ค.ของทุกปี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง