การเดินสายหาเสียงเพื่อลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมคมฟุตบอลฯของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเข้มข้นมากขึ้น โดยการหาเสียงจากทั้งลีกภูมิภาค ยามาฮ่าลีกวันและทีมในไทยพรีเมียร์ลีก โดยพล.ต.อ.สมยศ ระบุว่าที่ผ่านมามีความไม่โปร่งใสในการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลฯ รวมถึงการชี้แจงงบดุลที่ไม่ตรงกับรายได้ที่มีการแถลงต่อสื่อมวลชน บ่งชี้ว่ามีการเลี่ยงภาษีของสมาคมฟุตบอลฯ
พล.ต.อ.สมยศ ยังเผยในเอกสารกรณีการบริหารงานไม่โปร่งใส โดยตั้งข้อสังเกตงบดุลของสมาคมฟุตบอลฯในปี 2556 ที่มีการแจ้งรายได้จากค่าบัตรผ่านประตูในการแข่งขันฟุตบอลซูซูกิคัพระหว่างไทยกับสิงคโปร์ว่า สมาคมแจ้งไว้เพียง 46,660 บาทเท่านั้น ทั้งที่มีผู้ชมไม่น้อยกว่า 20,000 คน
ทั้งนี้มีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้มีการตรวจสอบสมาคมฟุตบอลฯ โดยประธานกรรมาธิการขอให้อธิบดีกรมสรรพากรเข้าชี้แจงในวันที่ 19 ม.ค.2558 และก่อนหน้านี้ประธานสโมสรพัทยาเอฟซียังร้องเรียนต่อคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติว่ามีการทุจริตเงินของสมาคมฟุตบอลฯจากการแสวงหาผลประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลฯและการทุจริตจากเงินค่าปรับสโมสรพิจิตรเอฟซี เพราะมีคำสั่งให้โอนเงินเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา จึงเป็นเหตุให้เข้าใจได้ว่าเป็นการรายงานข้อมูลการเงินเท็จแก่กรมสรรพากร